ม.ศรีปทุม ทำโพลคะแนนนิยม เลือกตั้งปี 66 บนบล็อกเชน เพื่อไทยนำอันดับ 1

ม.ศรีปทุม และดีโหวต เปิดสำนักโพลบน Blockchain

ม.ศรีปทุมร่วมกับดีโหวตเปิดสำนักโพลบน blockchain ฟังประชาชนแบบเรียลไทม์ ชี้เลือกตั้ง 2566 “เพื่อไทย-ก้าวไกล-รวมไทยสร้างชาติ” นำ ประชาชนจี้รัฐบาลหน้าแก้ปัญหาค่าครองชีพ-หนี้สิน

วันที่ 11 เมษายน 2566 มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ร่วมกับดีโหวต (D-vote) เปิดเผยผลสำรวจ “คะแนนความนิยมทางการเมือง 2566” ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม 2566-10 เมษายน 2566 จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกช่วงอายุ ภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,922 ตัวอย่าง ค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0 ผ่านระบบสำรวจความเห็นสาธารณะออนไลน์ของดีโหวต

5 อันดับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

โดยพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ดังนี้

  • อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 44.31
  • อับดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 21.54
  • อันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 9.56
  • อันดับ 4 พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 4.04
  • อันดับ 5 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 3.89

5 อันดับ ส.ส.แบบแบ่งเขต

ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ประชาชนจะเลือก ดังนี้

  • อันดับ 1 คือจากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 42.89
  • อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 17.29
  • อันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 8.07
  • อันดับ 4 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 6.05
  • อันดับ 5 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 5.31

ปัจจัยที่ทำให้คนเทใจ

ปัจจัย 3 อันดับแรกที่ทำให้ตัดสินใจลงคะแนนให้พรรคการเมืองคือ

  • ความสามารถ-วิสัยทัศน์ ร้อยละ 56.82
  • อุดมการณ์พรรค ร้อยละ 43.58
  • เคยทำสำเร็จมาแล้วในอดีต ร้อยละ 35.71

ส่วนปัญหาที่คนต้องการให้รัฐบาลหน้าเร่งแก้ไขคือ ค่าครองชีพ-ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 44.87 ความยากจน-หนี้สิน ร้อยละ 33.47 และเศรษฐกิจอ่อนแอ ร้อยละ 28.39

พรรคทำงานตามสัญญาหรือไม่

ผศ.ดร.วิรัช เลิศไพรฑูรย์พันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวถึงความร่วมมือของมหาวิทยาลัยศรีปทุมและดีโหวตว่า เป็นการร่วมกันพัฒนาการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสนับสนุนด้านการวิจัยในเชิงวิชาการ สำหรับทางด้านการเมือง ไม่เพียงแต่ช่วงที่พรรคการเมืองต่าง ๆ หาเสียงเท่านั้น แต่รวมถึงภายหลังได้รับการเลือกตั้งเข้าไปว่าได้มีการทำงานตามสัญญาที่ให้ไว้ และประโยชน์ตกถึงประชาชนอย่างจับต้องได้หรือไม่

ดังเช่นที่ทางสำนักโพลบน Blockchain ได้ทำสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังการทำงานครบรอบ 10 เดือน ก็พบว่าความพึงพอใจของประชาชนยังอยู่ระดับที่ดีคือ ร้อยละ 85.12

โดยประชาชนเห็นว่าความโดดเด่นคือ เป็นคนที่ทำงานหนัก เป็นนักพัฒนาที่มีความทันสมัย และเป็นนักบริหารได้ดี แต่ยังขาดการสื่อสารของการปฏิบัติตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้อยู่ เป็นต้น โดยทางสำนักโพลบน Blockchain จะเน้นผลที่ภาคส่วนต่าง ๆ สามารถนำไปใช้เพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาเป็นนโยบายและการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อไป อีกด้านจะเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษาหันมาสนใจสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากกลุ่มเยาวชนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

ใช้ blockchain คลายข้อสงสัยประชาชน

ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และผู้อำนวยการดีโหวตกล่าวว่า การนำเทคโนโลยี blockchain และ KYC มาใช้ในกระบวนการสำรวจความเห็นสาธารณะ จะช่วยคลายข้อสงสัยของประชาชนที่อาจมีต่อผลโพลว่ามาจากการสำรวจจริง ๆ หรือไม่ หรือไปสำรวจที่ไหนมา ทำไมบางกลุ่มจึงไม่เคยได้รับการสำรวจ

โดยสำหรับสำนักโพลบน Blockchain นี้ ประชาชนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการโหวต เพื่อสะท้อนเสียงของตนได้ โดยระบบจะมีทั้งการแสดงผลโพลดิบแบบเรียลไทม์ และแสดงผลที่ผ่านการประมวลให้กลุ่มตัวอย่างไม่เอนเอียงสำหรับประเด็นสำคัญ

ทั้งนี้สำหรับเทคโนโลยีที่ทางสำนักโพลบน Blockchain ใช้ นอกจากทำให้จะสามารถประมวลความเห็น      ในเชิงปริมาณได้อย่างรวดเร็วและสะท้อนถึงเสียงที่แท้จริงของประชาชนแล้ว เรายังพัฒนาไปสู่การแสดงความเห็น ในเชิงคุณภาพที่ประชาชนสามารถพิมพ์ส่งความเห็นได้อย่างอิสระและประมวลผลด้วยระบบ AI ได้อีกด้วย

โดยทางสำนักโพลบน Blockchain จะทยอยประกาศผลสำรวจที่เป็นประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ประชาชนทุกคนสามารถร่วมกันทำแบบสำรวจและเสนอความเห็นผ่านทาง www.d-vote.com