ดร.เอนก รมว.อุดมศึกษาฯฉายภาพผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นอย่างไร

เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาฯ ฉายภาพผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องมีคุณสมบัติ 9 ข้อ ทำอะไรต้องคิดภาพใหญ่ ชี้ อว.ต้องนำพาประเทศไปสู่ประเทศพัฒนาแล้ว 

วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้กล่าวบรรยายการสัมมนาวิชาการ หัวข้อ “ภาวะผู้นำในการสร้างความสำเร็จ” แก่นักศึกษาคณะรัฐประศาสนศาสตร์ และคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ว่า 3 ปีที่ผ่านมาของการทำงานกระทรวง อว. มีความสำเร็จเป็นส่วนมาก มีการปรับเปลี่ยนปฏิรูปอุดมศึกษามากที่สุดในอาเซียน

การจะทำอะไรต้องคิดภาพใหญ่ เช่น อว.จะเป็นกระทรวงแห่งการปฏิบัติ การพัฒนา ไม่ใช่มุ่งเน้นแต่การวิจัย โดยวางไว้ว่าในปี 2580 ไทยจะต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้ และ อว.ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เราจะต้องเปลี่ยน Mindset ของการทำงานให้เป็นแบบใหม่ อย่าทำอะไรแบบทำไปเรื่อย ๆ ต้องปักธงทำแบบเป็นรูปธรรม

เอนก เหล่าธรรมทัศน์

นอกจากนั้น ต้องทำให้เร็ว ก้าวให้ยาว จึงจะทันคนอื่น สำหรับกระทรวง อว.ได้มีโครงการสำคัญออกมามากมาย เช่น

  1. โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T เปิดรับบัณฑิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่เข้าทำงานจนเศรษฐกิจฐานรากฟื้น เกิดการสร้างงานสร้างรายได้หมุนเวียน ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมกว่า 5 เท่า หรือกว่า 50,000 ล้านบาท
  2. โครงการ Higher Education Sandbox มิติใหม่การจัดทำหลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษา เรียน 3 ปี ทำงานทันทีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนอย่างมีศักยภาพแบบเร่งด่วน
  3. โครงการ Cooperative and Work Integrated Education หรือ CWIE กลไกการจัดการเรียนการสอนที่สถาบันอุดมศึกษาและสถานประกอบการดำเนินการร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในสถาบันอุดมศึกษาควบคู่กับการปฏิบัติงานจริง ช่วยพัฒนาสมรรถนะทักษะตรงความต้องการของตลาดงานและพร้อมสู่โลกของการทำงานจริง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงคุณสมบัติผู้นำที่ดีที่ประสบความสำเร็จที่ทุกคนและเยาวชนคนรุ่นใหม่พึงนำมาปรับใช้

ภาวะผู้นำ 9 ข้อต้องมี

ศ. (พิเศษ) ดร.เอนกกล่าวต่อว่า ในส่วนของภาวะผู้นำในการสร้างความสำเร็จ และทักษะภาวะผู้นำ หรือ “Leadership” ของผู้นำองค์กร ว่าต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติทั้งเชิงความคิดและพฤติกรรม 9 ข้อ ได้แก่

  1. เริ่มแรกคิดต้องมองภาพใหญ่
  2. ไม่ดูแคลนตัวเองและคนอื่น ไม่พูดเกินจริงในเรื่องที่ประสงค์ลงมือทำ
  3. ตั้งเป้าในเรื่องที่ทำได้และสำเร็จเร็วใน 14 วัน หรือ 2 เดือนยิ่งดี
  4. ชอบอ่านเพราะหนังสือคือปราชญ์ชั้นยอดในการสร้างไอเดีย หรือสรุปสิ่งที่ทำอยู่นั้นไปต่อได้หรือไม่
  5. ทำงานด้วย Passion เสมอ ๆ จะช่วยบรรลุผลและทำแบบไม่มีวันเหนื่อย
  6. มองปัญหาอย่างเข้าใจพร้อมพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
  7. ถ่อมตน
  8. ใจแข็งมุ่งมั่น
  9. กำหนดยุทธศาสตร์ทางลัดทุกครั้งที่ลงมือปฏิบัติ

“สิ่งแรกที่ผมทำเลยคือการคิดภาพใหญ่ให้กระทรวง ว่ากระทรวง อว.ต้องเป็นกระทรวงแห่งปฏิบัติ ไม่ใช่กระทรวงที่สอนและวิจัยเท่านั้น โดยทำอย่างกระชับ เพราะถ้ายาวเกินไปมันก็ไม่เป็นภาวะผู้นำ เราเน้นว่าเราจะเป็นหน่วยปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นหน่วยที่ปฏิบัติเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวครีเอทีฟ

จากนั้นก็คิดต่อว่า ภายในปี 2580 ต้องทำอะไร ซึ่งกำหนดเป็นหมุดหมายของแผนยุทธศาสตร์ของชาติที่ประเทศไทยทั้งหมดต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ท้าทายมาก เพราะเราพัฒนามาเรื่อย ๆ 60 ปี เราไม่เคยประกาศว่าปีไหนสำเร็จ”

วิทยาศาสตร์ไทยเป็นรองแค่สิงคโปร์

ศ. (พิเศษ) ดร.เอนกกล่าวอีกว่า วิธีการก้าวเดินที่จะทำให้ประเทศสำเร็จได้ คือ “Giant Feet” ก้าวให้เหมือนยักษ์ เพราะเรามีวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของชาติอาเซียน เป็นรองเพียงแค่ประเทศสิงคโปร์เท่านั้น เมื่อก่อนถ้าบอกว่าเราจะส่งยานอวกาศไปโคจรรอบดวงจันทร์ ก็มีคนไม่เชื่อ และวิพากษ์วิจารณ์ดูแคลน ซึ่งจริง ๆ เราไม่ได้จะไปดวงจันทร์เพราะเห่อตามกระแส แต่ถ้าเราไปได้เราจะเปลี่ยน Mindset ว่าคนไทยเก่ง จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากมายมหาศาล

“ผู้นำต้องมี Passion ความหลงใหลรักทุ่มเท ต้องคิดไว 2 อาทิตย์ 2 เดือนสำเร็จยิ่งดี ที่สำคัญต้องเห็นโอกาส จุดแบ่งระหว่างเป็นผู้นำกับผู้ตาม คือผู้ตามมักเห็นอะไรเป็นปัญหาซึ่งพาหดหู่ ผู้นำต้องเผยอตัวขึ้นมากกว่าความเป็นจริงที่ผู้ใต้บังคับบัญชากำลังคุยกันอยู่ แล้วพาให้เขาเห็นโอกาส

อย่างเป็นรัฐมนตรี ไม่ทันได้คิดที่จะทำอะไรก็โดนโจมตี ถ้าคิดแบบคนธรรมดาทั่วไปก็ไม่คิดเปลี่ยนแปลง อย่างช่วงโควิด-19 กระทรวง อว.ก็ไปช่วยกระทรวงสาธารณสุข ทำให้คนไทยเห็นว่าโรงพยาบาลที่ดีที่สุดคือ โรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ของเรา จึงเกิดผลงานมากมายอย่างรวดเร็ว

อาทิ การผลิตหน้ากาก N95 การสร้างห้องความดันลม กระทั่งผลิตวัคซีนโควิด-19 และรักษาป้องกันโรคอื่น ๆ ที่เคยสั่งซื้อจากต่างประเทศ นอกเหนือการปฏิรูปแก้ไขอะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอุดมศึกษาในปีที่แล้ว 2564 สร้างมูลค่าแก่สังคมและเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท”

เอนก เหล่าธรรมทัศน์

“เราต้องกล้าฉีก เราอาจจะต้องฝึกให้ใจแข็งบ้าง ต้องมีทางลัด ทางเลี่ยง ทางเบี่ยง การจะเอาชนะใช้แต่วิชาการไม่พอ ต้องใช้ยุทธศาสตร์ด้วย หลักการที่ถูกต้อง คือ ถ้าเราไม่พร้อม เราจะต้องมียุทธวิธีเอาชนะคนที่พร้อมได้ ต้องคิดว่า ขอบคุณที่เขาไม่ทำ ผมจะได้ทำ เดี๋ยวก็สำเร็จให้คิดแบบนี้ อย่าคิดว่าไม่พร้อมจะไปชนะคนพร้อมได้อย่างไร พร้อมน้อยจะไปชนะพร้อมมากได้อย่างไร ยุคนี้ชัยชนะมาจากคนที่เร็วกว่า ไม่ใช่พร้อมกว่า และปลาใหญ่จำนวนมากถูกปลาเล็กที่เร็วกว่ากลืนกินเป็นอาหาร” ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวทิ้งท้าย

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์