สูตรสร้างคนแบบ “P-PAC” ค้นหาศักยภาพจากศาสตร์ลายผิว

ภาพ : www.sciencemag.org

บางทีธุรกิจก็เกิดขึ้นจากความบังเอิญ ซึ่งเหมือนกับ ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา(Panyatara Potential Analysis Centre-P-PAC) หรือที่เรียกว่า พี-แพค ที่ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2550 มาถึงวันนี้ศูนย์แห่งนี้เปิดให้บริการมา 10 ปีแล้ว แม้จะไม่ทำกำไรเท่าไหร่นัก

แต่กระนั้นศูนย์แห่งนี้มีลูกค้าเข้ารับการบริการมากกว่า 35,000 คน ทั้ง ๆ ที่เป็นหน่วยงานเล็ก ๆ แห่งหนึ่งภายใต้ร่มการบริหารของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

โดยมี “ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์” เป็นผู้บริหารระดับสูง ทั้งยังเป็นผู้พบธุรกิจนี้โดยบังเอิญ เพราะวันหนึ่งมีการแข่งขันหมากล้อมระดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ซึ่งมีนักหมากล้อมจากไต้หวัน, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลี และอื่น ๆ ต่างเดินทางมาแข่งขัน รวม ๆ แล้วประมาณ 300 คน

“อาจารย์เหลียน อี้ว์ชิง ชาวไต้หวัน อายุประมาณ 50 ปี เดินทางมากับคณะนักศึกษาชาวไต้หวันด้วย เขามีโอกาสเจอผมในฐานะนายกสมาคมหมากล้อมแห่งประเทศไทย เขาบอกว่าอยากเก็บลายนิ้วมือของนักหมากล้อมทุกคนเพื่อนำไปเป็นตัวอย่างในการศึกษาลักษณะร่วมของลายนิ้วเพื่อทำการวิเคราะห์ต่อไป ด้วยความอยากรู้ผมจึงให้เขาเก็บลายนิ้วมือผมเป็นตัวอย่างก่อน เพราะผมเองเป็นนักหมากล้อมด้วย”

“หลังจากนั้น เพียงวันเดียวเขากลับมาพร้อมผลวิเคราะห์ที่เป็นภาษาจีน ซึ่งผมอ่านภาษาจีนออก แต่เขามีเจ้าหน้าที่มาอธิบายด้วย พอฟังเสร็จผมรู้ทันทีว่าตรงกับตัวเองประมาณ 90% ตอนนั้นรู้สึกประทับใจแล้ว แต่ยังไม่ปักใจเชื่อมาก ผมจึงชวนเพื่อนร่วมงานอีก 3 คนไปไต้หวันเพื่อไปหาแก พอทุกคนสแกนลายนิ้วมือ อาจารย์เหลียนชี้เลยว่าคนนี้เป็นอดีตซีอีโอของบริษัทยาแห่งหนึ่ง อีกคนเป็นผู้บริหาร ส่วนอีกคนเขาบอกว่าต้องทำงานด้านบริหารบุคคล ปรากฏว่าถูกทั้งหมดเลย”

“ยิ่งเมื่อพูดคุยลงในรายละเอียด ยิ่งทำให้ทราบว่าลายผิววิทยา หรือการศึกษาเกี่ยวกับลายนิ้วมือ ลายฝ่ามือ และลายฝ่าเท้ามีมากว่า 200 ปีแล้ว และในทางการแพทย์, นิติเวชศาสตร์, พันธุกรรมวิทยา และมนุษยวิทยาเชื่อว่าลายนิ้วมือ นิ้วเท้า ฝ่ามือ และฝ่าเท้า ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เซลล์สมองของตัวอ่อนเริ่มตั้งครรภ์มารดา หรือพูดง่าย ๆ คือ ลายผิวนี้จะติดตัวมาตั้งแต่เกิด และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดช่วงชีวิต”

“ที่สำคัญ รูปแบบลายนิ้วมือแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ลายมัดหวาย, ลายก้นหอย และลายโค้ง ซึ่งลายผิวของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน และความไม่เหมือนกันนี่เองที่เป็นตัวบ่งบอกว่ามนุษย์ทุกคนสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งใจได้ หากถูกไกด์ไปในทางถูกต้อง ทั้งนั้น เพื่อนำศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมาเสริมสร้างประสิทธิภาพให้ถูกที่ถูกทาง”

ผลตรงนี้จึงทำให้ “ก่อศักดิ์” เชื่อว่า หากนำศาสตร์ทางด้านนี้มาประยุกต์ใช้กับเยาวชนไทยคงจะดี เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นผู้ปกครองพยายามแนะนำให้ลูก ๆ ไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ลูก ๆ กลับไม่ชอบในสิ่งที่ผู้ปกครองแนะนำ จึงทำให้พวกเขาเสียเวลาไปกับการเรียนที่ไม่ใช่ทางที่เลือกของตัวเอง

“ความตั้งใจแรกของผม จึงอยากนำวิชานี้เข้ามาในเมืองไทยเพื่อช่วยเด็กไทยไม่ให้เป็นเหยื่อของพ่อแม่ที่ชอบมาเจ้ากี้เจ้าการให้เรียนในสิ่งที่อาจไม่ตรงกับสิ่งที่เขาชอบ เขาถนัด เพราะบางทีลูกเรียนเก่งมาก พ่อแม่จึงอยากให้เรียนหมอ ถามว่าเขาเรียนได้ไหมก็เรียนได้ แต่จริง ๆ เด็กคนนี้อาจไม่เหมาะที่จะอยู่ในสายอาชีพหมอ จึงทำให้เขาเสียโอกาสในสิ่งที่เขาอยากจะเรียนในสิ่งที่เขาชอบจริง ๆ”

“ผมจึงอยากบอกว่าสิ่งที่ได้จากการทำโปรแกรมนี้ คือ พ่อแม่จะได้เรียนรู้ว่าควรเลี้ยงลูกอย่างไร อย่าไปบิดเบือนชีวิตของเขา เพื่อเขาจะได้รู้ศักยภาพของเด็ก รู้ว่าเขาเติบโตแล้วควรจะเข้ามหาวิทยาลัย สอบอะไร เรียนอะไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กอย่างมาก เพราะการวิเคราะห์จะมีลักษณะของคนเปรียบเทียบกับนก 5 อย่าง แต่ก็จะมีสิ่งตรงข้ามอีก 4 อย่าง รวมเป็น 9 อย่าง ที่บอกลักษณะของตัวหลักและตัวรอง”

“ผมเปรียบเทียบนก 5 อย่างให้ฟัง อย่างตัวแรกคือ เหยี่ยว ซึ่งเป็นคนที่ทำอะไรจะเน้นผลลัพธ์ มีเป้าหมายชัดเจน ชอบอิสระ ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง, ห่านป่าเป็นคนที่เน้นการทำตามมาตรฐาน เคารพกติกา ใส่ใจรายละเอียด เหมาะทำงานวิชาชีพ, นกยูง เป็นคนที่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ชอบการแบ่งปัน ชอบให้คนชื่นชม, นกกระจอกเทศ เป็นคนมานะ บากบั่น อดทน อดกลั้น ใครจะว่าใครจะชม ไม่รักก็ไม่ว่าจะทำให้ดีที่สุด และนกแก้วเป็นคนปรับตัวเก่ง ชอบการเปลี่ยนแปลง หลีกเลี่ยงการตัดสินใจแบบทันที และคนคนนี้จะเข้ากับคนอื่น ๆ ได้ดี”

แต่ละคนจะมีนกตัวหลักและตัวรองผสมกัน อันเป็นลักษณะของมนุษย์โดยทั่วไป

แต่กระนั้นเมื่อ “ก่อศักดิ์” นำมาปรับใช้พร้อมกับสร้างศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (Panyatara Potential Analysis Centre-P-PAC) เมื่อปี 2550 ผ่านมาถึงวันนี้พี-แพคไม่เพียงตอบสนองกลุ่มลูกค้าครอบครัวประมาณ 45% กลุ่มลูกค้าองค์กร 40% กลุ่มบุคคลทั่วไป 10% และกลุ่มโรงเรียน 5%

หากยังรองรับลูกค้ามาแล้วกว่า 35,000 คน ครอบคลุมทั้งหมด 2 สาขา คือ สาขาสำนักงานใหญ่ อาคารปัญจภูมิ ถนนสาทรใต้ และสาขาแจ้งวัฒนะ โรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ โดยมีค่าบริการเพียง 10,000 บาท/คน

“ศาสตร์ดังกล่าวนอกจากจะนำมาปรับใช้กับพนักงานของซีพี ออลล์ อีกส่วนหนึ่งเรายังนำมาปรับใช้ในเรื่องการศึกษาด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (SATIT PIM) พวกเขาจะได้รับการวิเคราะห์ลายผิวทุกคนเพื่อให้ทราบถึงความสามารถของพวกเขาอีกทางหนึ่งเพื่อที่จะให้คุณครูดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นของนักเรียนออกมา”

“นอกจากนั้น ยังเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพลูก ๆ ของผู้ปกครองเพื่อให้เขาเดินในเส้นทางที่เขาเลือกเอง ซึ่งไม่เพียงจะเป็นความสุขของตัวนักเรียนเอง หากยังเป็นความสุขของผู้ปกครองด้วย เพราะเขารู้แล้วว่าลูก ๆของเขาชอบอะไรและฝันอยากจะเป็นอะไร เช่นเดียวกับนักศึกษาปริญญาโท MBA สาขาวิชาการบริหารคน และกลยุทธ์องค์การ (People Management and Organization Strategy) เราจะทำการวิเคราะห์ลายผิวด้วยเพื่อค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวตนของเขาเพื่อสร้างให้เขาพร้อมเป็นผู้นำรุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต”

“ก่อศักดิ์” ยอมรับว่า แม้ภาพของศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธาราอาจไม่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจตลอด 10 ปีผ่านมา แต่เขาเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นการคืนกำไรเพื่อสังคมอย่างหนึ่ง อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการช่วยเรื่องของการค้นหาศักยภาพตัวตนของเยาวชนไทยให้ออกมาอย่างมีผลสัมฤทธิ์มีศักยภาพเพื่อที่เขาจะเติบโตไปเป็นคนคุณภาพของประเทศต่อไปนั่นเอง