
ทีมนักวิจัย ม.อ. ร่วมพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 กับบริษัท เคสเทรล ไบโอ ไซเอ็นซ์ ประสบความสำเร็จและได้รับ อย. เป็นรายแรก ให้ผลแม่นยำในเวลาเพียง 10-15 นาที ช่วยแพทย์คัดกรองเบื้องต้น
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภาคการศึกษา ภาคเอกชน และภาครัฐ ร่วมแถลงความสำเร็จการพัฒนา “ชุดทดสอบเพื่อตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) และเครื่องผลิตกรดไฮโปคลอรัสและไฮโปคลอไรด์สำหรับฆ่าเชื้อไวรัสพร้อมใช้เชิงพาณิชย์” ที่ผลิตโดยคนไทยสำเร็จเป็นรายแรก
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 มี.ค. 66 (อัพเดต)
- แม็คโคร-โลตัส ลุยโมเดลใหม่ สาขา 2 in 1-ยกชั้นสู่โกลบอลเพลเยอร์
- OR ราคาหุ้น “ออลไทม์โล” จะทิ้งหรือถือต่อดี ?
“ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ” อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ม.อ.ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมมาโดยตลอด และนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ในประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วน ทางมหาวิทยาลัยพยายามใช้ศักยภาพทางวิชาการที่มีส่งเสริมนักวิจัยของ ม.อ. ไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโควิด-19

ครั้งนี้บุคลากรของเราได้ร่วมวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม 2 ผลงานเกี่ยวกับโควิด-19 ได้แก่ ผศ.ดร.ธีรกมล เพ็งสกุล อาจารย์สังกัดคณะเทคนิคการแพทย์ และทีมวิจัย ร่วมพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 กับทางบริษัท เคสเทรล ไบโอ ไซเอ็นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และ รศ.ดร.วรากร ลิ่มบุตร อาจารย์สาขาเคมีวิเคราะห์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์ และทีมวิจัย ร่วมพัฒนาเครื่องผลิตกรดไฮโปคลอรัสและไฮโปคลอไรด์สำหรับฆ่าเชื้อไวรัส กับทางบริษัท มาสเตอร์ แล็บส์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยผ่านแผนงานการให้บริการเชื่อมโยงนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์แบบเบ็ดเสร็จ (PSUIT) ของอุทยานวิทยาศาสตร์ ม.อ. เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างนักวิจัยและภาคเอกชน จนประสบความสำเร็จ
“การที่ผลงานและนักวิจัยของ ม.สงขลานครินทร์ ได้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในศักยภาพ ทั้งภาครัฐและเอกชนสนับสนุนไปสู่การผลิตจริงเพื่อใช้จริง ทำให้คณะผู้วิจัยและบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีกำลังใจในการพัฒนางานวิจัยเชิงวิชาการที่จะช่วยพัฒนาสังคมไทยและประเทศไทย”
“ชฎารัตน์ เสโนฤทธิ์” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เคสเทรล ไบโอ ไซเอ็นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาชุดตรวจแบบรวดเร็ว (rapid test) รวมถึงการผลิตและการจำหน่าย ตามการมาตรฐาน ISO13485

“ภายใต้ความร่วมมือระหว่างทีมวิจัยของบริษัท และทีมวิจัยของ ม.สงขลานครินทร์ เราทำงานร่วมกันกว่า 7 เดือน จนได้ชุดทดสอบที่มีประสิทธิภาพในการคัดกรองตรวจเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่แม่นยำ และใช้เวลาตรวจเพียง 10-15 นาที โดยเป็นรายแรกที่พัฒนาชุดตรวจแบบใช้หลักการทางอิมมูโนโครมาโตกราฟฟี ตรวจหาแอนติบอดี้ชนิด IgM และ IgG ต่อโควิด-19 ในพลาสมาและซีรั่มของเลือด ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 ด้วยค่า sensitivity 96%, specificity 98% และ accuracy 97.6%”
ความสำเร็จครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศไทยมีนวัตกรรมที่ดูแลเรื่องโควิด-19 ของเราเอง และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเคสเทรล ไบโอ ไซเอ็นซ์ และ ม.สงขลานครินทร์ จะมีการพัฒนางานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการณ์โควิด-19 ร่วมกันต่อไป
“พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์” ประธานกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน และคณะสมาชิกวุฒิสภา ที่ร่วมการแถลงความสำเร็จในครั้งนี้ กล่าวถึงบทบาทของสมาชิกวุฒิสภาในการช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ถึงแม้ช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาพอดี แต่สมาชิกวุฒิสภาและคณะกรรมการการบริหารราชการแผ่นดินมีการทำงานต่อเนื่อง และได้ทำกิจกรรมนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในนามส่วนตัว และใช้อำนาจวุฒิสภาตลอดช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19

“ทางคณะได้รับทราบถึงความพยายามในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการพัฒนาชุดทดสอบเพื่อตรวจคัดกรองการติดเชื้อโควิด-19 และเครื่องผลิตกรดไฮโปคลอรัสและไฮโปคลอไรด์สำหรับฆ่าเชื้อไวรัส และทราบถึงอุปสรรคและปัญหา ทางคณะมีความยินดีในการหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อช่วยแก้ปัญหา พร้อมทั้งผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อให้นวัตกรรมดี ๆ ที่พัฒนาและคิดค้นโดยคนไทยประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในระยะเวลาที่จำกัด เพื่อจะได้นำผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นมาช่วยเหลือคนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่ประสบปัญหาและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้สถานการณ์ดีขึ้น”
“ดร.นำโชค โสมาภา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ แล็บส์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แต่เดิมบริษัทดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ
“แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงกับทางบริษัท จึงพยายามปรับตัวและเฟ้นหาผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมาพัฒนาสู่การผลิตให้เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาหรือบรรเทาวิกฤตการณ์โควิด-19”

หนึ่งในนั้นคือเครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อ KIKOWA เป็นเครื่องที่ใช้ผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อประสิทธิภาพสูง ที่เป็นกรดไฮโปคลอรัสและไฮโปคลอไรด์ มีความสามารถในการฆ่าเชื้อไวรัสสูงกว่าแอลกฮอล์ และสามารถฆ่าเชื้อได้ในทุกสภาพพื้นผิว ทั้งยังมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้สูง โดยอาศัยน้ำและเกลือนำมาผ่านระบบเทคโนโลยีเฉพาะของทาง KIKOWA ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลงานการวิจัยของ รศ.ดร.วรากร ลิ่มบุตร และทีมวิจัยจากของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
KIKOWA มีการควบคุมคุณภาพของเครื่องผลิตและน้ำยาฆ่าเชื้อแบบ real time โดยใช้เทคโนโลยี IOT สามารถผลิตน้ำยาได้รวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส และตัวเครื่องผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ISO 9001 และมีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมดูแลหลังการขาย เครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อ KIKOWA จะเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมของคนไทยที่จะมาร่วมต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19