1 พ.ย.นี้ ศธ.พร้อมเปิดเรียน มีโรงเรียนขอเปิดออนไซต์กว่าหมื่นแห่ง

1 พ.ย.นี้ ศธ.พร้อมเปิดเรียน มีโรงเรียนขอเปิดออนไซต์กว่าหมื่นแห่ง
ภาพจากเฟซบุ๊ก ตรีนุช เทียนทอง

1 พ.ย.นี้ ศธ.พร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 มีโรงเรียนขอเปิดสอนแบบ on site ทะลุ 10,000 แห่ง “ตรีนุช” กำชับปฏิบัติตามเงื่อนไข-แนวปฏิบัติ-แผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด ยึดความปลอดภัยของผู้เรียนเป็นสำคัญ

วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ ศธ., นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย ร่วมแถลงข่าว “ความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของสถานศึกษาสังกัด ศธ.ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564”

โดยนางสาวตรีนุช กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการออกประกาศ ศธ.เรื่องหลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 (ฉบับที่ 34 ) เพื่อกำกับดูแลและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักเรียน ครู และประชาชนทั่วไปว่า โรงเรียนและสถาบันการศึกษาสามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ตามแนวการเปิดภาคเรียนที่ 2/2546 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

ประกาศ ศธ.ฉบับนี้ได้กำหนดหลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถานศึกษา เงื่อนไขของมาตรการ แนวปฏิบัติ แผนเผชิญเหตุ และรายละเอียดต่าง ๆ ระบุไว้อย่างชัดเจน โดยมีสาระสำคัญ 5 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1. เงื่อนไขหลักของมาตรการ Sandbox Safety Zone in School รองรับการเปิดภาคการศึกษาที่ 2/2564 โดยจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาแบบ on site จำแนกตามเขตพื้นที่การแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19

ส่วนที่ 2. เงื่อนไขข้อกำหนดของ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC), 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา (ประเภทไป-กลับ)

ส่วนที่ 3.หลักเกณฑ์การพิจารณาสำหรับการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)

ส่วนที่ 4. มาตรการตามแผนเผชิญเหตุตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของสถานศึกษา

ส่วนที่ 5.หลักเกณฑ์การพิจารณาสำหรับการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อการสอบ การฝึกอบรม หรือ การทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

“ในการเปิดเรียนแบบ on site โรงเรียนหรือสถานศึกษาต้องผ่านการประเมินความพร้อมผ่าน Thai Stop COVID Plus (TSC+) และรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOECOVID โดยถือปฏิบัติอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง, ครูและบุคลากรในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ร้อยละ 85 ขึ้นไป

สำหรับครูและบุคลากรในพื้นที่อื่น ๆ ต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ตั้งแต่ร้อยละ 85 ขึ้นไป ส่วนนักเรียนไม่มีกำหนด แต่ ศธ.ได้รณรงค์ทำความเข้าใจให้นักเรียนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครองเอง”

นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังสำรวจจำนวนโรงเรียนว่าในภาคเรียนที่ 2/2564 นี้จะใช้รูปแบบใด โดยพบว่ามีทั้งขอเปิดแบบ on site 100% หรือ on site ส่วนใหญ่รวมกว่า 10,000 โรงเรียน มีบางแห่งขอใช้รูปแบบผสมผสาน และมีบางพื้นที่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยังไม่ให้เปิดแบบ on site ในวันที่ 1พ.ย.นี้ แต่ให้เลื่อนไปเปิดวันที่ 15 พ.ย.2564 แทน

อย่างไรก็ตาม จะปิดเทอม 2/2564 พร้อมกันในวันที่ 1 เมษายน 2565 สำหรับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทั้งของรัฐและเอกชนทั้งสิ้น 869 แห่ง ตอบแบบสอบถามมา 832 แห่ง พบว่าส่วนใหญ่ 531 แห่งขอใช้รูปแบบผสมผสานคือมีทั้ง On site และ Online รองลงมา 192 แห่งขอใช้รูปแบบ Online 100 % และจำนวน 109 แห่งขอใช้ On site 100%

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ระหว่างภาคการศึกษาโรงเรียนหรือสถานศึกษา สามารถจัดการเรียนการสอนได้ทั้งรูปแบบ On site หรือ Online หรือ แบบผสมผสาน (Hybrid), นักเรียน ครู และบุคลากร ทุกคนต้องประเมิน Thai Save Thai (TST) ตามเกณฑ์จำแนกตามเขตพื้นที่การแพร่ระบาด, มีการสุ่มตรวจคัดกรองหาเชื้อ (ATK) ทั้งนักเรียน ครู และบุคลากร เพื่อเฝ้าระวัง

มีการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น , ทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน และจัดนักเรียนในห้องเรียนขนาดปกติ ไม่เกิน 25 คน หรือจัดให้เว้นระยะห่างระหว่างนักเรียนในห้องเรียนไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร

ตลอดจนมีสถานที่แยกกักตัวในโรงเรียน หรือพื้นที่แยกกักชั่วคราว รวมไปถึงแผนเผชิญเหตุสำหรับรองรับการดูแลรักษาเบื้องต้นกรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรในสถานศึกษากรณีมีการติดเชื้อโควิด-19 หรือ ผลตรวจคัดกรองหาเชื้อเป็นบวก โดยมีการซักซ้อมอย่างเคร่งครัด และควบคุมดูแลการเดินทางกรณีมีการเข้าและออกจากสถานศึกษาอย่างเข้มข้น

โดยหลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสในพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดเส้นทางการเดินทาง ทั้งนี้ มาตรการและแนวทางต่าง ๆ จะปรับตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ขึ้นกับคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครกำหนด

ทั้งนี้ ยังคงยึด 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ประกอบด้วย1.Distancing เว้นระยะห่าง 2.Mask wearing สวมหน้ากาก 3.Hand washing ล้างมือ 4.Testing คัดกรองวัดไข้ 5.Reducing ลดการแออัด และ 6.Cleaning ทำความสะอาด ส่วน 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) อย่างเข้มข้น คือ 1.Self-care ดูแลตนเอง 2.Spoon ใช้ช้อนกลางส่วนตัว 3.Eating กินอาหารปรุงสุกใหม่ 4.Track ลงทะเบียนเข้า-ออกโรงเรียน 5.Check สำรวจตรวจสอบ และ 6.Quarantine กักกันตัวเอง

1 พ.ย.นี้ ศธ.พร้อมเปิดเรียน มีโรงเรียนขอเปิดออนไซต์กว่าหมื่นแห่ง