รศ.ดร.คมสัน มาลีสี นั่งเก้าอี้อธิการบดี สจล.คนใหม่ แทน ดร.เอ้ สุชัชวีร์

รศ. ดร.คมสัน มาลีสี
รศ. ดร.คมสัน มาลีสี

รศ.ดร.คมสัน มาลีสี รับตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คนใหม่ แทน ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หลังบริหารงานมหาวิทยาลัยมากว่า 12 ปี มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ผู้นำนวัตกรรมระดับโลก และสถาบันเทคโนโลยีชั้นนำแห่งเอเชีย

วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังได้แจ้งว่า มีมติเห็นชอบให้ “รศ.ดร.คมสัน มาลีสี” เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่ง “อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง” คนใหม่

โดยที่ผ่านมา รศ.ดร.คมสัน มาลีสี รักษาการแทนอธิการบดี มีประสบการณ์การบริหารงานภายใน สจล.มากว่า 12 ปี ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ทั้งด้านการบริหารในฐานะ “คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์” สู่การผลักดัน Education Reform ส่งเสริมการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอนที่ทันสมัย “กรรมการอำนวยการ โรงเรียนสาธิตนานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMIDS)”

โรงเรียนสาธิตนานาชาติสายวิทย์แห่งแรกของไทย “อธิการบดีสถาบันโคเซ็นแห่ง สจล.” (KOSEN-KMITL) สถาบันชำนาญพิเศษเฉพาะด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่มุ่งผลิตวิศวกรชั้นแนวหน้าของโลก ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านงานวิชาการ ผ่านการผลักดันให้เกิดหลักสูตรนานาชาติถึง 12 หลักสูตร อาทิ วิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ และวิศวกรรมการเงิน โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมการนำผลงานของนักศึกษามาสร้างเป็นนิทรรศการเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง

ตลอดจนด้านการบริการสังคม ด้วยการบุกเบิกโครงการ FACTory Classroom โรงงานต้นแบบแห่งการเรียนรู้ภายใต้ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม สู่การเพิ่มมูลค่าแก่ผลผลิตทางการเกษตรด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยเป้าหมายที่ต้องการยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมทั้งสร้างรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้วิสาหกิจชุมชนเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนสถาบัน ภายใต้การบริหารของ “รศ.ดร.คมสัน มาลีสี” เป็นการบริหารแบบ “รอบด้าน ทุกมุมมอง” เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ The World Master of Innovation หรือผู้นำนวัตกรรมระดับโลก เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น “สถาบันเทคโนโลยีชั้นนำแห่งเอเชีย” เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันนวัตกรรมโลก และเพื่อพัฒนา สจล.ให้รวดเร็วที่สุด ผลักดันให้เกิดนโยบาย Quick Win ทำทันที ถึง 22 ข้อหลัก ๆ อาทิ การพัฒนาพื้นที่ออกกำลังกาย และเพิ่มเติมหอพักใหม่

พร้อมทั้งผลักดันแอปพลิเคชั่น KMITL UApp เพื่อให้บริการนักศึกษา และเกิดการเชื่อมโยงกันแบบเรียลไทม์ เดินหน้าผลักดันการทำโปรเจ็กต์ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ต่อยอดไปสู่การสนับสนุนนักศึกษาในการสร้างสตาร์ตอัพ และผสานองค์ความรู้ระหว่างวิทยาเขต โดยมีนโยบายหลักในการพัฒนา สจล. อย่าง Global Innovation Index ที่ครอบคลุมพัฒนาทั้งด้านระบบการทำงาน คุณภาพชีวิต ต่อยอดเครือข่าย ส่งเสริมนวัตกรรม และผลักดันด้านการเรียนรู้ ใน 5 มิติดังนี้

1.Global Infrastructure-เพิ่มคุณภาพชีวิตบุคลากรและนักศึกษา มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)

2.Global Management-ผลักดันบุคลากรสู่โลกดิจิทัล ด้วยการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เท่าทันโลกการทำงานยุคดิจิทัล

3.Global Citizen-ปั้นบัณฑิตให้พร้อมทำงานทั่วโลก ด้วยการบ่มเพาะบัณฑิตให้เป็นส่วนหนึ่งของประชากรโลก ที่พร้อมทำงานร่วมกับองค์กรทั่วโลก พร้อมเดินหน้าพัฒนางานวิจัยชั้นแนวหน้า (Frontier Research)

4.Global Innovation-รุดพัฒนานวัตกรรมระดับโลกเพื่อลดการนำเข้า ด้วยการเดินหน้าพัฒนาโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพื่อผลักดันให้เป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ดีที่สุดของไทย

5.Global Learning-ขมวดรวมทุกวิทยาเขตเป็นหนึ่งเดียว ผสานองค์ความรู้ระหว่าง 2 วิทยาเขต ได้แก่ สจล. และ สจล. วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร เป็นหนึ่งเดียว