ส่องโผหุ้นเด่นติด SET50 ปี’61 ชี้ช่องเก็งกำไรลุ้นผลตอบแทนสูงกว่า 7%-

นักวิเคราะห์คาดการณ์หุ้นเด่นจ่อ “เข้า” คำนวณดัชนี “SET50-SET100” รอบ 6 เดือนแรกปี 2561 ชี้ช่องเก็งกำไรก่อน ตลท. ประกาศรายชื่อทางการ กลางเดือน ธ.ค.นี้ ลุ้นหุ้นเด่นเข้า SET50 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.7%

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะมีการทบทวนรายชื่อหุ้นในกลุ่มดัชนีกลุ่ม SET50 และ SET100 ใหม่ทุก ๆ 6 เดือนนั้น สำหรับรายชื่อหุ้นที่จะใช้รอบใหม่ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2561 ทางฝ่ายวิจัยบริษัทได้ประเมินรายชื่อหุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดเลือกให้เข้าและออกล่วงหน้า ก่อนที่ ตลท.จะประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้

โดยหุ้นที่คาดว่าจะถูกปรับเข้าดัชนี SET50 ใหม่มีด้วยกัน 3 บริษัท ได้แก่ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD), บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) และ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาแทนหุ้น บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) และ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ที่จะตกชั้นไปอยู่ในกลุ่มดัชนี SET100 แทน

ขณะที่กลุ่มดัชนี SET100 คาดว่ามีหุ้นที่จะถูกปรับเข้าใหม่มีด้วยกัน 12 บริษัท ได้แก่ TPIPP, บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO), บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW), บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ (HANA), บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI), บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP), บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT), บมจ.ซีโอแอล (COL), บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV), บมจ.เอสพีซีจี (SPCG), บมจ.อาร์เอส (RS) และ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL)

ส่วนหุ้น 12 บริษัทที่คาดว่าจะถูกปลดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI), บมจ.มาลีกรุ๊ป (MALEE), บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL), บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG), บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO), บมจ.ไทยคม (THCOM), บมจ.คอมเซเว่น (COM7), บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA), บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN), บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI), บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ)

“หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 มีความน่าสนใจต่อการลงทุนในระยะสั้น เพราะจากการศึกษาความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในอดีตนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปี 2009 เป็นต้นมา พบว่าหุ้นที่เข้า SET50 มักมีราคาหุ้นปรับตัวในทิศทางที่ดีกว่าตลาดในระยะสั้น (outperform) โดยในช่วง 1 เดือนล่วงหน้าก่อนมีผลบังคับใช้จริง มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.7% และมีโอกาสเกิดขึ้นราว 76% จึงแนะนำให้นักลงทุนซื้อเก็งกำไรล่วงหน้าได้” นายอภิชาติกล่าว

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยในเดือน ธ.ค.นี้ เป็นจังหวะที่ดีในการเลือกหุ้นที่คาดว่าจะถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 Index อาทิ SAWAD, TPIPP, CEN-TEL เพื่อดักผลตอบแทนที่คาดว่าจะสูงถึงระดับ 7.8% หากเข้าลงทุนในช่วง 1 เดือนสุดท้ายก่อนวันมีผลบังคับใช้ ซึ่งมีโอกาสความน่าจะเป็นสูงถึง 84% ขณะที่ผลตอบแทนของหุ้นที่เข้าดัชนี SET100 ไม่ค่อยมีนัยสำคัญมากนัก เนื่องจากคาดว่าจะให้ผลตอบแทนแค่ 1.2% โดยมีโอกาสความน่าจะเป็น 50%


นอกจากนี้ ในทางกลับกัน สำหรับกลุ่มหุ้นที่ถูกตัดออกจากดัชนี SET50 พบว่ามักปรับตัวน้อยกว่าตลาด (underperform) ในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้น จึงยังไม่แนะนำให้รีบเข้าสะสมหุ้น TPIPL, PSH, KCE ในช่วงนี้ ถึงแม้ว่าราคาจะปรับตัวลงมาพอสมควรแล้วก็ตาม แต่ให้รอจังหวะเข้าซื้อในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ข่าวร้ายสะท้อนไปในราคาเกือบหมดแล้ว