ทำไม แมนฯซิตี้ ฟอร์มดีที่สุดของยุโรปในเวลานี้-

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ฟุตบอลยุโรปฤดูกาล 2017-2018 ออกสตาร์ตไปเกิน 1 ใน 3 ของเส้นทางทั้งหมดแล้ว ถ้าจะคัดทีมที่ผลงาน “สมบูรณ์แบบ” ที่สุด คงต้องยกให้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นำหัวแถวอย่างชัดเจน มีหลายเหตุผลที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า สร้างสถิติน่าเหลือเชื่อช่วงต้นฤดูกาลที่มหัศจรรย์ในปีนี้

ผลงานของเรือใบสีฟ้าในลีกหลังผ่านไป 15 นัด พวกเขามี 43 คะแนน จากการชนะ 14 นัด เสมอ 1 นัด เป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในลีกฤดูกาล 2017-2018 ผลงานระดับเดียวกันในปีนี้มีเพียงอินเตอร์ มิลาน แห่งเซเรีย อา อิตาลี ซึ่งคืนชีพกลับมาอยู่หัวตารางอีกครั้งเท่านั้นที่ผลงานใกล้เคียงกับแมนฯซิตี้ในช่วงต้นฤดูกาล โดยอินเตอร์ มิลาน มี 39 คะแนน จาก 15 นัด เสมอมากกว่าแมนฯซิตี้ 2 นัด

43 คะแนนจาก 15 นัดคือสถิติออกสตาร์ตดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับตั้งแต่เริ่มรีแบรนด์เมื่อต้นยุค 90 นอกเหนือจากนี้ เรือใบสีฟ้ายังทำสถิติชนะในพรีเมียร์ลีก 13 นัดรวด เท่ากับสถิติเดิมที่มี 4 ทีมครองร่วมกัน ขณะที่ผลงานโดยรวม 20 นัดหลังสุดนับถึงเกมที่ชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบหวุดหวิด ทีมของเป๊ป ชนะ 20 นัดติดต่อกันแล้ว

ผลงานฤดูกาลที่ 2 ในอังกฤษของยอดกุนซือหนุ่มสเปน ได้รับคำชมจากกูรูลูกหนังทั่วโลก แม้แต่ตำนานนักเตะทีมคู่แข่งยังยกย่องฟอร์มการเล่นของทีมเรือใบสีฟ้าว่าเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เกมรุกที่ตื่นตาตื่นใจ พังประตูถล่มทลายยิงไป 46 ลูกจาก 15 นัด สถิติผู้เล่นที่ผ่านบอลให้เพื่อนไปทำประตูได้มากที่สุด 3 อันดับแรกเป็นผู้เล่นของแมนฯซิตี้ทั้งสิ้น เรียงมาตั้งแต่ ดาบิด ซิลบา กัปตันทีม และ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งมีสถิติเท่ากันที่ 8 แอสซิสต์ อันดับ 3 คือ เลรอย ซาเน่ ที่ 6 แอสซิสต์

สไตล์การเล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เร้าใจไม่ต่างจากช่วงที่เป๊ป คุมบาร์เซโลนา และบาเยิร์น มิวนิก ในช่วงขาขึ้น ทีมของเป๊ป ถูกนำไปเปรียบกับผลงานอาร์เซนอล ฤดูกาลไร้พ่ายเมื่อปี 2003-2004 ซึ่งเป็นทีมเดียวที่ทำสถิติไม่แพ้ใครตลอด 38 นัดในลีกสูงสุดของอังกฤษ

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากการพิสูจน์ตัวเองของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับฤดูกาลที่ 2 ซึ่งเขามีโอกาสได้เริ่มต้นฤดูกาลด้วยทีมที่เขาเลือกอย่างเต็มสูบ ขณะเดียวกัน เป๊ป สามารถทำให้ผู้เล่นแนวรุกชุดเดิมที่อยู่กับทีมทุกรายประสานงานระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมกันอย่างถ้วนหน้า

ราฮีม สเตอร์ลิง, เลรอย ซาเน่, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา หรือ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ที่ยังต้องเรียกฟอร์มกลับมาหลังประสบอุบัติเหตุบนถนน แต่โดยรวมก็ถือว่าฟอร์มของหัวหอกอาร์เจนไตน์ไม่ถึงขั้นแย่ แม้แต่ กาเบรียล เฆซุส ซึ่งอาจเป็นตัวสำรอง แต่สถิติแสดงให้เห็นว่าเขามีส่วนร่วมกับ 21 ประตูใน 24 เกมหลังสุดที่เขาลงเล่นให้ต้นสังกัดในเกมพรีเมียร์ลีก โดยยิงไป 15 ประตู ทำ 6 แอสซิสต์ เกมที่ทีมชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เฆซุส ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ลงมาสร้างความแตกต่างให้ทีมในช่วงครึ่งหลัง

ผู้เล่นแนวรุกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือลิสต์รายชื่อแข้งระดับโลก เมื่อมาอยู่ในทีมเดียวกัน บรรยากาศการแข่งขันเพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมมีส่วนช่วยยกเพดานผลงานของทีมตามไปด้วย ผู้เล่นแนวรุกที่ติดเครื่อง 5-6 คน อยู่ในทีมเดียวกัน วิ่งทำเกมทั่วสนามจึงไม่น่าแปลกที่เรือใบสีฟ้าจะเป็นเครื่องจักรถล่มประตูในฤดูกาลนี้ด้วย

อีกหนึ่งแกนสำคัญของผลงานยอดเยี่ยมคือการออกแบบสไตล์การเล่นของเป๊ป ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของแนวทางการทำงานสำหรับกุนซือสเปน ฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ดูสนุก และหวือหวาไม่แพ้ช่วงที่เขาขึ้นมาคุมบาร์เซโลนา กวาดทุกแชมป์ที่ลงเล่น เป๊ปไม่สามารถใส่สไตล์การเล่นแบบสมบูรณ์ในทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่มาผสมองค์ประกอบหลายอย่างให้เข้ากันได้สำเร็จในฤดูกาลนี้

แม้เป๊ปยืนหยัดกับปรัชญาทำทีมอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าไปที่ไหน เขาต้องการให้ทีมเล่นแบบที่เขาต้องการเท่านั้น ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน ซึ่งน่ายินดีที่แนวคิดและสไตล์การเล่นของเขาที่เน้นครองบอล บีบเกมเร็ว และเข้าทำแบบดุดันแต่เป็นระบบ เมื่อเข้าฝักแล้วล้วนมีประสิทธิภาพ

ช่วงปลายฤดูกาลแรกที่เขามาทำงานในอังกฤษ เป๊ป ยอมรับผิดในฐานะคนที่นำไอเดียของตัวเองมาปรับใช้แต่ไม่ได้ผล ส่วนหนึ่งคือเขาต้องใช้เวลาศึกษาลักษณะผู้เล่นในทีมเพื่อหาแนวทางและตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นแต่ละคนในระบบ ซึ่งดูเหมือนว่า เป๊ปใช้ต้นทุนทั้งเรื่องเงินที่ลงทุนมหาศาลและใช้เวลาอย่างคุ้มค่า สุดท้ายก็สามารถปรับจูนผู้เล่นร่วมกับระบบจนโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมสะท้อนผ่านผลงานที่น่าจะเป็นทีมที่ดีที่สุดของยุโรปช่วงต้นฤดูกาล


ถ้าเรือใบสีฟ้ารักษามาตรฐานใกล้เคียงกับผลงาน 15 นัดแรกของลีกไปจนจบฤดูกาล น่าจะมีอีกหลายสถิติที่ถูกทำลายลง