คอลัมน์ คุยกับ เอกราช
โดย เอกราช เก่งทุกทาง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ฟุตบอลโลก 2018 เพิ่งจับสลากแบ่งสายรอบแรก แม้จะไม่มีกลุ่มไหนเป็นกรุ๊ป ออฟ เดธ อย่างชัดเจน แต่แฟน ๆ ก็ตื่นเต้นกับการวาดภาพไปถึงรอบน็อกเอาต์ ซึ่งจะมีบิ๊กแมตช์ ทีมใหญ่ เจอกันเองแน่นอน
ดูเส้นทางแล้ว รอบแรกน่ะไม่เท่าไหร่ แต่นับจากรอบ 8 ทีมเป็นต้นไป ช้างจะชนกันเองอุตลุด
ผมเชื่อว่าเวิลด์คัพ 2018 จะเป็นฟุตบอลโลกที่มีช่องว่างน้อย มาตรฐานการเล่นสูสีทัดเทียม เดี๋ยวนี้ไม่ว่าทีมใหญ่-ทีมเล็กก็แทบจะเล่นเหมือนกัน คือเน้นแท็กติก ไฮเพรสซิ่ง ดันขึ้นบีบพื้นที่ในแดนคู่แข่ง
เยอรมันเล่นยังไง เม็กซิโกก็เล่นยังงั้น กระทั่งบราซิลยุคนี้ก็ขยันเพรส ไม่ต่างอะไรกับทีมอย่างไนจีเรีย
ถ้าจะหาจุดตัดสินแพ้ชนะก็คงอยู่ที่คุณภาพของเกม คุณภาพของคนเล่น ซึ่งยังไง ๆ ก็ต้องมีความเหลื่อมล้ำให้เห็นอยู่แล้ว
บราซิลที่ตกไปในช่วงหลัง กลับมาคราวนี้น่าจะกู้ชื่อได้ในระดับหนึ่ง แต่เรื่องที่จะไปถึงแชมป์มันก็ไม่ง่าย ทีมแซมบ้าเก่งจริง แต่ไม่ได้ดีไปกว่าเยอรมัน ฝรั่งเศส หรือสเปนนะครับ
แชมป์เก่าเยอรมันยังแข็งแกร่ง มีตัวใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มความสดหลายคน ขณะที่ฝรั่งเศสตัวเก่งเยอะมากจนเลือกลำบาก ขึ้นอยู่กับกุนซือ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ว่าจะผสมสูตรสำเร็จออกมาได้กลมกล่อมแค่ไหน ถ้าลงตัวตราไก่ก็ลุ้นแชมป์ได้สบาย
ทีมชาติอังกฤษอาจจะไม่เด่นขนาดเป็นทีมเต็ง แต่การอยู่สายอ่อนในรอบแรกทำให้เส้นทางผ่านสะดวก น่าจะไปถึงรอบ 8 ทีม เช่นเดียวกับเบลเยียม รายหลังนี้สองตัวเก่ง เอเดน อาซาร์ กับ เควิน เดอบรอยน์ มีสิทธิแจ้งเกิดในระดับโลกทั้งคู่
เบลเยียมจะแข็งแกร่งมากในเวิลด์คัพ 2018 ปัญหาคืออาจจะต้องเจอกับบราซิลในรอบ 8 ทีม ซึ่งโอกาสแพ้-ชนะถือว่า 50-50
ฟุตบอลโลกคราวนี้ทีมที่คาดว่าจะเก่งก็น่าจะเก่งตามนั้น รัสเซียเจ้าภาพคงเข้ารอบน็อกเอาต์ ส่วนทีมจากแอฟริกาขอให้จับตาไนจีเรีย ที่มีสิทธิเป็นม้ามืดได้
แต่ถ้าถามว่าใครน่าเชื่อถือที่สุด ชัวร์สุดก็คงไม่พ้นเยอรมัน เจ้าเก่าอีกตามเคย