SET ต้องระวังการอ่อนตัวลดความร้อนแรง ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

หุ้น

บล.ไทยพาณิชย์ มองดัชนี SET กรอบบนจำกัดที่แนวต้าน 1,610-1,620 จุด แนวรับ 1,589 จุด ชี้หากหลุดต่ำกว่านี้จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ พร้อมจับตาสหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อวันพุธนี้

วันที่ 9 สิงหาคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ (SCBS) วิเคราะห์แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทย ว่า SET ขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,600 จุด ขณะที่สัญญาณเทคนิคเข้าสู่ภาวะ Overbought ทำให้ยังต้องระวังการอ่อนตัวสลับ เพื่อลดความร้อนแรง และในระยะสั้นกรอบบนยังจำกัดที่แนวต้าน 1,610-1,620 จุด ด้านกรอบล่างติดตามแนวรับที่ 1,589 จุด หากต่ำกว่า จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ

ส่วนประเด็นสำคัญติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐประจำเดือน ก.ค. ในวันพุธนี้ โดยคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว หลังราคาน้ำมันลงหนักในเดือน ก.ค. แต่ยังคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75%

ขณะที่จีนขยายเวลาช้อมรบต่อเนื่องไม่มีกำหนด ฟากไต้หวันเริ่มซ้อมรบกระสุนจริงวันนี้ อาจกระทบการขนส่งทางทะเลในภูมิภาค

สหประชาชาติ (UN) แสดงความวิตกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครนจะถูกกองทัพรัสเซียโจมตีอีกครั้ง หวั่นเกิดวิกฤตครั้งใหญ่

ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อ ปรับลดระดับโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่เฝ้าระวัง มีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้

ฟากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเสนอ ศบค. วันที่ 19 ส.ค.นี้ ขยายเวลาพำนักวีช่าสำหรับนักท่องเที่ยว และ VOA สูงสุด 45 วัน มีผลถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่คาดสิ้นปีนักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่ม หลังคลายมาตรการโควิดและการบิน คาดปีหน้าโต 40% แตะ 4 ล้านคน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แม้ตลาดการเงินเริ่มผ่อนคลายขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เงินเฟ้อพื้นฐาน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอตัวลง ทำให้เป็นไปได้ว่าเฟดจะเปลี่ยนท่าทีต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น แต่สัปดาห์นี้มองตลาดหุ้นไทยจะยังผันผวนขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรงบ 2Q65

รวมทั้งจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 ส.ค. เพื่อดูการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย

กลยุทธ์ลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ จึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและ/หรือ มีโมเมนตัมกำไรฟื้นตัวดี

โดยภายใต้ภาวะตลาดยังอยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการของกลุ่ม real sector จึงเน้นเลือกกลุ่มลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และ/หรือ มีโมเมนตัมกำไรดี ดังนี้

1) หุ้นได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัว ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 2Q65 เติบโตดีทั้ง YOY (เปรียบเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน) และ QOQ (เปรียบเทียบไตรมาสก่อนหน้า) เลือก ERW, MINT, CRC และ AOT

2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก BBL, KBANK และ KTB


3) หุ้นพลังงานซึ่งคาดกำไร 2Q65 เติบโตดีและมองราคาน้ำมันปรับตัวลงมาในจุดที่น่าสนใจแล้ว เลือก PTT กับ BCP