เกิดอะไรขึ้น? INSURE หุ้นเจ้าสัว ราคาวิ่ง 1,300% หลังรับโอนพอร์ตอาคเนย์

หุ้น เจ้าสัวเจริญ

ส่องหุ้น INSURE หุ้นเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ราคาวิ่ง 1,300% หลังรับโอนพอร์ต Non-Covid อาคเนย์-ไทยประกันภัย ราคาผิดสังเกตตั้งแต่วันที่ 9-16 ส.ค. ดีดตัวขึ้น 50-134 บาทต่อวัน

วันที่ 19 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ INSURE หนึ่งในธุรกิจประกันวินาศภัยของกลุ่มไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TGH) ธุรกิจประกันและการเงินของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้เข้าไปรับโอนพอร์ต Non-Covid ของบริษัทอาคเนย์ประกันภัยและบริษัทไทยประกันภัย ซึ่งมีผลไปตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 2565

โดยที่น่าตกใจมากคือ ราคาหุ้นที่ปรากฏบนเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-18 ส.ค. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 728% จากระดับราคาหุ้น 50 บาท มาอยู่ที่ระดับ 414 บาท และราคาหุ้นเคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 700 บาท (วันที่ 17 ส.ค.) หรือคิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1,300%

โดยราคาหุ้นเริ่มผิดสังเกตตั้งแต่ช่วงวันที่ 9-16 ส.ค. 65 โดยปิดตลาดวันที่ 9 ส.ค. ขึ้นมาอยู่ที่ราคา 218 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 29.76% จากราคาวันก่อนหน้า และต่อมาวันที่ 10 ส.ค. ขึ้นมาอยู่ที่ราคา 268 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 22.94% และวันที่ 11 ส.ค. ขึ้นมาอยู่ที่ราคา 348 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 29.85% ถัดมาในวันที่ 15 ส.ค. ขึ้นมาอยู่ที่ราคา 452 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 29.89% และในวันที่ 16 ส.ค. ขึ้นมาอยู่ที่ราคา 586 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 29.65% โดยราคาเป็นการดีดตัวขึ้นระดับ 50-134 บาทต่อวัน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าราคาหุ้นสอดรับต่อการรายงานผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2565 เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 705.97 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนถือว่าเป็นการพลิกกลับมามีกำไร หลังจากมีผลขาดทุน 5.24 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากรายการสำคัญ แยกเป็น 1.รายได้ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ 2.รายได้จากการลงทุนและรายได้อื่น และ 3.รายได้ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของผลต่างชั่วคราวทางภาษี

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเริ่มปรับตัวดิ่งลงตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. โดยปิดตลาดลดลง 8.19% จากราคาวันก่อนหน้า และเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ลดลง 23.05% และวันนี้ปิดตลาดปรับตัวลดลง 52 บาท หรือลดลงกว่า 12.56% หล่นมาอยู่ที่ราคา 362 บาท

โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ วันที่ 18 ส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4,140 ล้านบาท จากสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 370 ล้านบาท และมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ที่ 5.71 เท่า มูลค่าทางบัญชี (P/BV) 4.54 เท่า