บล.บัวหลวง คาดหุ้นไทยฟื้น Q4 เคาะเป้าดัชนีสิ้นปี 1,705 จุด

หุ้นไทย

บล.บัวหลวง คาดตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวไตรมาส 4 เชื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์-น้ำมันผ่านจุดพีกแล้ว มองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ 1,705 จุด พร้อมแนะจัดพอร์ตในหุ้น 65% ทองคำ 10% กองทุนอสังหาฯ 10% ส่วนที่เหลือถือเงินสด

วันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ภาพการลงทุนในปี 2565 นี้ปัจจัยอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นและอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังปรับขึ้นในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐ ได้สร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มอัตราการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงได้ตลาดหุ้นไทยและตลาดภูมิภาค

ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจของไทยจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งในปีนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้ว 1.1 ล้านคน โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนกว่าจะกลับไปเท่าช่วงก่อนโควิด-19 ที่พึ่งพาภาคการท่องเที่ยวอยู่ในสัดส่วน 20% ของตัวเลข GDP

โดย บล.บัวหลวงคาดดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในช่วงไตรมาส 4/2565 จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยอัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับลดลง เนื่องจากเชื่อว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาน้ำมันได้ผ่านจุดพีกไปแล้ว โดยมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยไว้ที่ 1,705 จุด ขณะที่ในปี 2566 มองเป้าหมายดัชนีไว้อยู่ที่ 1,800 จุด

พร้อมคาดตัวเลขกำไรของบริษัทจดทะเบียนปี 2565 ที่คาดว่าจะเติบโตที่ 9.2% หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 98.2 บาท ขณะที่ในปี 2566 คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตขึ้น 10.6% หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 107.4 บาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง

โดยแนะนำลงทุนในหุ้นไทย ในกลุ่มโรงพยาบาล พาณิชย์ อาหาร สื่อมีเดีย ที่ยืดหยุ่นต่อภาวะเงินเฟ้อ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค คือหัวใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ และการลงพื้นที่ของ ส.ส.เพื่อเตรียมเลือกตั้งปีหน้าจะสร้างแรงจูงใจการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

รวมถึงกลุ่มสื่อสาร เทคโนโลยี platform & software การจับมือเพื่อสร้างกลุ่มธุรกิจ สำหรับข้อมูลผู้บริโภคเพื่อต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต โดยมองว่าหุ้นกลุ่ม Growth story จะสามารถกลับมาปรับตัวได้ดีกว่ากลุ่มเน้นคุณค่าที่กำไรโตน้อย

ส่วนคำแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุน แนะนำให้ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงโดยแบ่งสัดในหุ้น 65% ทองคำ 10% กองทุนอสังหาฯ 10% ส่วนที่เหลือให้ถือเป็นเงินสดไว้