คลังจ่อลดภาษีน้ำมันดีเซลถึงสิ้นปี’65 คาดไตรมาส 3 ราคาพลังงานพุ่งสูงสุด

น้ำมันดีเซล

รมว.คลังจ่อลดภาษีน้ำมันดีเซลออกไปอีกถึงสิ้นปี’65 หลังคาดไตรมาส 3 “ราคาพลังงาน-อาหาร-วัตถุดิบ-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์” พุ่งสูงสุด ถกกระทรวงพลังงานออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพ ดูแลวินมอเตอร์ไซค์-แท็กซี่-ลดค่าไฟฟ้า

วันที่ 31 สิงหาคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2565 กระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ โดยได้นำส่วนที่เกินเป้าหมายนั้นมาชดเชยราคาพลังงาน ผ่านการลดภาษีน้ำมันดีเซล ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ย.นี้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้กระทรวงการคลังก็อยู่ระหว่างการพิจารณาขยายมาตรการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลออกไปอีกจนถึงสิ้นปี 2565 ส่วนจะช่วยลดอัตราภาษีได้มากน้อยเพียงใด จะต้องพิจารณาประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน และการเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีงบประมาณ 2566 ด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ภาวะราคาพลังงาน ราคาอาหาร รวมทั้งวัตถุดิบต่าง ๆ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นช่วงที่พีกที่สุด และคาดว่าในปี 2565 นี้ อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 6% โดยนโยบายที่จะต้องเข้าไปดูแลคงไม่ต่างจากสหรัฐอเมริกา ที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

นายอาคมกล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้เข้ามาดูเสถียรภาพทางด้านราคา ผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว และต้องรอติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน ก.ย. 65 นี้อีกครั้ง แต่ ธปท.ก็พูดชัดเจนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะต้องดูความสมดุลให้เศรษฐกิจเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

“ในส่วนของกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงานก็จะเข้าไปช่วยลดภาระค่าครองชีพในสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของประชาชน โดยมาตรการที่สำคัญคือการลดภาระค่าครองชีพ ซึ่งคลังจะสนับสนุนผ่านมาตรการภาษี และกำลังดูกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ซึ่งในส่วนของน้ำมันเบนซินไม่ได้ลดอัตราภาษีให้ แต่เป็นการลดภาษีน้ำมันดีเซล แต่ก็จะมีมาตรการเข้าไปดูแลเพิ่มเติม เช่น แท็กซี่ให้ก๊าช NGV กระทรวงพลังงานก็จะเข้าไปสนับสนุน”

ขณะที่การดูแลเรื่องค่าไฟฟ้านั้น รัฐบาลจะช่วยเหลือผ่านกระทรวงพลังงาน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างของบประมาณของรัฐในการเข้าไปช่วยอุดหนุน ซึ่งขณะนี้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างอีแกท ก็เข้าไปช่วยตรึงราคาค่าไฟอยู่ แต่อีแกทก็มีภาระเรื่องการลงทุนเช่นกัน ฉะนั้น จึงจะใช้งบประมาณของรัฐเข้ามาดูแลเพิ่มเติม


ทั้งนี้ ในส่วนของการบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยังมีโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนครึ่งหนึ่ง โดยรัฐร่วมจ่าย 50% สามารถเริ่มใช้จ่ายได้ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ส่วนนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการดูแลประชาชน