GULF ราคาหุ้นพุ่ง 9.8% โบรกฯอัพราคาเป้าใหม่-กำไรสวย Q4 ทำนิวไฮ

GULF หุ้น กัลฟ์

GULF ราคาหุ้นวันนี้ปิดตลาดพุ่ง 9.8% บวกกว่า 5 บาท มูลค่าซื้อขายสูงสุด 6,109.35 ล้านบาท “บล.หยวนต้า” ชี้ธุรกิจโรงไฟฟ้าทยอยมีข่าวดี-กำไรสวย คาดไตรมาส 4/65 กัลฟ์กำไรนิวไฮรับไฮซีซั่น-ส่วนแบ่งกำไรจากลมของ JV อัพราคาเป้าหมายใหม่ 59 บาท

วันที่ 6 กันยายน 2565 ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปิดตลาดเย็นวันนี้ ดัชนี SET Index อยู่ที่ 1,633.87 จุด ปรับตัวขึ้น 11.87 จุด หรือ +0.73 จากดัชนีวันก่อนหน้า มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 70,060.33 ล้านบาท

โดยบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ 6,109.35 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 5 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 9.80% จากราคาวันก่อนหน้า โดยขึ้นมาอยู่ที่ 56 บาท จากราคา 51 บาท

ด้านนายธีร์ธนัตถ์ จินดารัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันราคาหุ้น GULF ซื้อขายที่ PER66 เพียง 37 เท่า จากอดีตที่เคยซื้อขายที่ 60-70 เท่า (EA อยู่ที่ 40 เท่า) และยังไม่รวมการเติบโตที่กำลังจะเกิดขึ้นผ่าน JV และแผน PDP ฉบับใหม่ของไทยและเวียดนาม รวมถึงการ M&A ที่กำลังจะเกิดขึ้น

อีกทั้งยังมีธุรกิจ Nonpower เช่น Data center และตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตัล ที่ล้วนเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการ จึงมองว่า GULF ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากและน่าลงทุนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว จึงแนะนำ “ซื้อ”

โดยหยวนต้าได้ปรับประมาณการปี 2566 โดยรวมผลของการลดสัดส่วน BKR2 และได้ส่วนแบ่งกำไรจากลมของ JV ซึ่งสุทธิแล้วมีผลกระทบใกล้เคียงกันคือเป็นกลางต่อประมาณการ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 59 บาท 

ทั้งนี้คาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 3/65 จะเติบโตเทียบไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) และเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) โดยการลดสัดส่วนใน BKR2 ลงครึ่งหนึ่งเหลือ 25% จากเดิม 50% จะมีผลในไตรมาส 4/65 ทำให้ในไตรมาส 3/65 ยังมีผลปกติ

ขณะที่ได้ส่วนแบ่งกำไรจากลมของ JV ที่ทำร่วมกับ GUNKUL (GGC) ขนาด 170MW ซึ่งเป็น High Season เข้ามาเพิ่มเติม 

ขณะที่ไตรมาส 4/65 คาดว่ากำไรของ GULF จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ราว 3,500-4,000 ล้านบาท แม้ว่าจะลดสัดส่วนของ BKR2 ลง จากการ COD หน่วยที่ 4 ของ GSRC (โรงไฟฟ้า IPP) 

โดยคาดว่าแผน PDP2022 ของไทยจะประกาศใช้ภายในเดือน ก.ย. ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาเคลื่อนไหว Outperform ตลาด และคาดว่า GULF มีศักยภาพในการลงทุนจากการมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีช่องทางในการเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงินสดได้หลายวิธี ปัจจุบัน JV ที่ทำร่วมกับ GUNKUL ตั้งเป้า 1,000 MW ใน 5 ปี ซึ่งหากทำได้ตามแผนจะเพิ่มมูลค่าราคาเป้าหมายอีกไม่น้อยกว่า 1.50-2 บาท 

อีกทั้งแผน PDP8 ของเวียดนามคาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้เช่นกัน ซึ่งมีขนาดราว 30,000 MW ใหญ่กว่าไทย 3 เท่า และ GULF น่าจะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่โอกาสในการได้โครงการใหม่ ๆ จำนวนมาก

โดยมีพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศในการร่วมลงทุน ซึ่งเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการ ขณะที่โครงการในต่างประเทศอื่น ๆ คาดว่าจะได้ขอสรุปเร็ว ๆ นี้ ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 MW โดยคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าราคาเป้าหมายอีกไม่น้อยกว่า 1 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและสัดส่วนการถือหุ้น 

นอกจากนี้คาดว่าโครงการเขื่อนในลาว 2 โครงการคือ Pak Beng และ Pak Lay คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญา PPA ใน 1-2 เดือนนี้เช่นกัน