SCBAM คัดกองทุนเด็ด SSF-RMF 3 สไตล์ลงทุนหุ้นสหรัฐ-จีน-เวียดนาม

SCBAM

บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) คัดพิเศษ กองทุนเด็ด SSF-RMF 3 สไตล์ 3 ดินแดนศักยภาพ สหรัฐ-จีน-เวียดนาม พร้อมโปรโมชั่นพิเศษรับ Fund Back สูงสุด 1,000 บาท เมื่อลงทุนระหว่าง 19 ก.ย. 65-30 ธ.ค. 65 นี้

วันที่ 22 กันยายน 2565 นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า SCBAM ยังคงสนับสนุนให้นักลงทุนวางแผนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มกองทุน SSF และ RMF ที่มีเป้าหมายการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในระยะยาว และโอกาสการใช้สิทธิเพื่อลดหย่อนภาษี

จึงได้ออกโปรโมชั่นพิเศษรับหน่วยลงทุนกองทุน SCBSFF สูงสุด 1,000 บาท เมื่อลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ที่เข้าร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 19 ก.ย. 65-30 ธ.ค. 65 นี้ นอกจากนี้ สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต SCB สามารถซื้อกองทุนผ่านบัตรเครดิตได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา และแอปพลิเคชั่น SCB Easy

อาชวิณ อัศวโภคิน
อาชวิณ อัศวโภคิน

ในปีนี้ SCBAM ได้คัดพิเศษกองทุน SSF และ RMF เน้น 3 ประเทศเปี่ยมด้วยศักยภาพ ใน 3 สไตล์แกร่ง ได้แก่

(1) สไตล์ผู้นำเศรษฐกิจ เด่นไปกับหุ้นสหรัฐ เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีหุ้นสหรัฐ ทั้งดัชนี S&P500 และดัชนี NASDAQ โดยกองทุน SSF ที่แนะนำ คือ กองทุน SCBS&P500-SSF และกองทุน SCBNDQ (SSF) และสำหรับกองทุน RMF แนะนำ คือกองทุน SCBRMS&P500 และกองทุน SCBRMNDQ

(2) สไตล์พี่ใหญ่ ดินแดนแห่งอนาคต โตไปกับหุ้นจีน กับกองทุน SCBASHARES(SSF) และกองทุน SCBRMASHARES ที่เน้นลงทุนเชิงรุกในบริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของจีนแผ่นดินใหญ่

(3) สไตล์ดาวรุ่งพุ่งแรง กับหุ้นเวียดนาม แนะนำกองทุน SCBVIET(SSF) และกองทุน SCBRMVIET ที่เน้นลงทุนเชิงรุกอย่างยืดหยุ่น จัดสรรพอร์ตอย่างลงตัว ทั้งหุ้นรายตัว, ETF และ Active Fund ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม

นายอาชวิณกล่าวเสริมว่า “ตั้งแต่ช่วงต้นปี หลาย ๆ ประเทศต้องเจอกับภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่บางประเทศมีโอกาสตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง ซึ่งยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม SCBAM ยังมีมุมมองเชิงบวกและเล็งเห็นโอกาสการลงทุนใน 3 ประเทศที่มีศักยภาพและปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีแนวโน้มฟื้นตัวดี ประเทศแรกคือสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในภาวะเงินเฟ้อสูง แต่ดัชนีภาคแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ในระยะยาวจึงมีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะกลับมาฟื้นตัว ประเทศที่สองคือจีน ซึ่งที่ผ่านมามีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น และเป็นประเทศที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ยังมีภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่พร้อมจะเติบโตควบคู่ไปกับแผนพัฒนาประเทศฉบับที่ 14 เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ, พลังงานทดแทน, อุปกรณ์การเดินเรือ, อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ และสุดท้ายคือประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศอาเซียน ที่จะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเพื่อกระจายความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน

นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงานและมีอัตราค่าจ้างที่ไม่แพง ทำให้เศรษฐกิจของเวียดนามยังคงมีศักยภาพในการขยายตัวสูง SCBAM จึงมองว่า 3 ประเทศดังกล่าวมีความน่าสนใจที่จะทยอยเข้าลงทุนในช่วงเวลานี้ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังสามารถใช้รับสิทธิเพื่อลดหย่อนภาษีได้ด้วย