ทำไมตลาดหุ้นเวียดนาม “ร่วงแรง” แต่ยังเป็นลูกรักของ Apple

หุ้นเวียดนาม แอปเปิล
โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

ตลาดหุ้นร่วงแรง แต่ “เวียดนาม” ยังขึ้นแท่น ลูกรัก Apple

ตลาดหุ้นเวียดนามกลับเข้าสู่เรดาห์การลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้น เวียดนามปรับตัวลดลงลงรุนแรง โดยดัชนี Vietnam Stock Index (VNI) ปรับตัวลดลงมาแล้วกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) หลังจากธนาคารกลางเวียดนามปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% ทำให้ธนาคารพาณิชย์เวียดนามพร้อมใจกันปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งการที่ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากนี้เอง ได้ดึงดูดนักลงทุนให้นำเงินไปฝากเงินแทนที่จะลงทุนในตลาดหุ้น

โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3-0.5% ตามระยะเวลาในการฝาก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนอยู่ที่ 6.1-6.3% ต่อปี ส่งผลให้ นักลงทุนเทขายหุ้นและนำเงินไปฝากมากขึ้น เพราะอย่างไรเสียการฝากเงิน ในธนาคารก็มีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นมา อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้พื้นฐานหุ้นในเวียดนามเปลี่ยน แปลงแต่อย่างใด

กูรูยันเวียดนามคือโอกาสลงทุนที่หาได้ยาก

นักลงทุน VI มือต้น ๆ ของไทยอย่าง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ได้ออกมาพูดถึงประเด็น ตลาดหุ้นเวียดนามว่า “เป็นโอกาสลงทุนที่หาได้ยาก” โดยบอกถึงเหตุผลสำคัญดังนี้

●     พื้นฐานเศรษฐกิจเวียดนามแข็งแกร่ง ตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวแสดง ถึงแนวโน้มการเติบโตของเวียดนามอย่างชัดเจน

●     หุ้นเวียดนามมีราคาถูกมาก อัตราส่วน P/E Ratio (Price-to-earnings Ratio) ของตลาดหุ้นเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 10-12 เท่า เทียบกับค่า P/E Ratio ของตลาดหุ้นไทยที่ประมาณ 17 เท่า

ดร.นิเวศน์ พูดถึงสิ่งที่กังวล คือ ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเวียดนามปรับขึ้นสูง ซึ่งจะดึงนักลงทุนในตลาดหุ้นออกไปเรื่อย ๆ ตามที่เราได้รายงานไปข้างต้น แต่ถ้ามองถึงพื้นฐานของหุ้นเวียดนามถือว่ามีราคาที่เหมาะสมและคุณภาพดี ล่อตาล่อใจนักลงทุนสาย VI อย่างมาก

ธนาคารกลางเวียดนามประกาศคุ้มครองเงินฝาก

นอกจากนี้ เวียดนามยังเกิดคดีทุจริตการซื้อขายตราสารหนี้ของผู้บริหารบริษัทอสังหา ริมทรัพย์ Van Thinh Phat Holdings Group และการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ กรรมการธนาคาร Saigon Commercial Bank สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน อย่างมาก

และเรื่องนี้ได้ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามปรับลงแรงด้วยเช่นกัน นอกเหนือไปจาก การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในเวียดนาม แต่การแก้เกมของ ทางการเวียดนามในครั้งนี้ดูเหมือนจะมีการตอบรับที่ดี

ล่าสุด Nguyen Thi Hong ประธานธนาคารกลางเวียดนามได้ออกมาให้ความ มั่นใจกับประชาชน ว่า “การฝากเงินในธนาคารต่าง ๆ รวมไปถึง Saigon Commercial Bank จะได้รับการคุ้มครองอย่างแน่นอน” เพื่อสร้างความมั่นใจและชะลอการแห่ถอน เงินของประชาชน

นอกจากนี้ CEO ของธนาคาร Saigon Commercial Bank ได้ออกมายืนยัน กับประชาชนว่า “ธนาคารมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ และเพียงพอต่อการจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเมื่อเงินฝากครบกำหนดแน่นอน”

GDP เวียดนามไตรมาส 3 โตระเบิด 13.7% YOY

เมื่อมาดูพื้นฐานเศรษฐกิจของเวียดนามมีทิศทางที่สดใส โดยล่าสุดเวียดนาม ได้ประกาศ GDP ไตรมาส 3 ปี 2565 ขยายตัว 13.7% YOY และหากรวม GDP ของ 9 เดือนแรกเข้าด้วยกันจะเติบโตอยู่ท่ี 8.8% YOY ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงสุด นับตั้งแต่ปี 2554 เศรษฐกิจทุกภาคส่วนของเวียดนามล้วนขยายตัวสูง ประกอบไปด้วย

  • ภาคการผลิต ขยายตัว 10.7%
  • ภาคการค้าปลีกและบริการ เติบโต 21.0%

แนวโน้มการเติบโตแบบติดจรวดทำให้เวียดนามเนื้อหอม มีบริษัทต่างชาติ เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI เพิ่มขึ้นถึง 16.3% มูลค่ารวมมากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ธนาคารโลกประมาณการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปี 2565 ไว้ว่าจะขยายตัว 7.2% YOY สูงสุดในภูมิภาค ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นมาที่ 3.94% แต่คณะกรรมการด้านนโยบายการเงินได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% เพื่อป้องกันเงินเฟ้อลุกลามแล้ว

เวียดนามขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิต Airpods ของโลก

เวียดนามยังได้รับอานิสงส์จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีน ทำให้บริษัทยักษ์ ใหญ่มากมายมองหาฐานการผลิตในประเทศอื่นและ Apple ก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยค่าแรงที่ยังต่ำ มีแรงงานวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก การเมืองในประเทศมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจมีศักยภาพที่จะเติบโตสูงต่อเนื่อง ทำให้เวียดนามเป็นหมุดหมายหลัก ๆ จากหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับอานิสงส์จากความขัดแย้งของสหรัฐ-จีน

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดการณ์ว่า เวียดนามจะผลิตหูฟัง Airpods ของ Apple เป็นสัดส่วนสูงถึง 65% ของทั้งหมดภายในปี 2568 เช่นเดียวกับ TechCrunch ที่รายงานว่าเวียดนามจะกลายเป็นฐานการผลิต iPad และ Apple Watch สัดส่วนสูงถึง 20% ของทั้งหมด รวมไปถึง Macbook ในสัดส่วน 5% ด้วย

ขณะเดียวกัน Apple จะเหลือสัดส่วนการผลิตสินค้าในจีนเพียง 5% ของปริมาณการผลิตในปัจจุบันภายในปี 2568

Foxconn ซัพพลายเออร์เจ้าใหญ่ของ Apple ก็เตรียมเช่าพื้นที่สร้างโรงงานที่จังหวัด Bac Giang ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตสินค้า Apple และทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มกว่า 30,000 ตำแหน่ง

หากเรากลับมาพิจารณาถึงมูลค่าของกิจการต่าง ๆ ในตลาดหุ้นเวียดนาม ก็ยังมีราคาที่เหมาะสมกับมูลค่าพื้นฐาน ขณะเดียวกันการเทขายหุ้นก็ช่วยทำให้หุ้น ของธุรกิจที่แข็งแกร่งมีราคาต่ำลง เหมาะแก่การเข้าลงทุนระยะยาว เกาะกระแส การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม

สิ่งที่น่าสนใจคืออัตรา P/E (Price-to-Earnings Ratio) ตลาดหุ้นเวียดนามอยู่ที่เพียง 14 เท่า ถือว่าว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีราคาเหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุน VI ในช่วงเวลานี้


“การปรับลงแรงของตลาดหุ้นเวียดนามครั้งนี้อาจเป็นโอกาสลงทุนที่ดีสำหรับคนที่สนใจจะลงทุนหุ้นเวียดนาม เพราะการลงทุนหุ้นเวียดนามตอนที่ราคาต่ำ ผลตอบแทนของคุณก็จะยิ่งทวีคูณเมื่อหุ้นเติบโตขึ้น เวียดนามยังน่าโอกาสลงทุน และการปรับตัวลงครั้งนี้นักวิเคราะห์หลายสำนักก็มองว่า ไม่ใช่วิกฤต แต่คือโอกาส หากคุณกล้าก็ลองคว้าโอกาสนี้มาครองไว้ได้”