KBank Private Banking ชู 6 กองทุนฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย

หุ้น-การเงิน

เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง (KBank Private Banking) แนะกลยุทธ์ลงทุนสินทรัพย์ทางเลือก กระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน สู่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนทางเลือกที่หลากหลายต่อเนื่อง ชูผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีโดดเด่น

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 นายตรีพล ภูมิวสนะ Senior Managing Director, Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี’65 เป็นปีที่ยากของนักลงทุนทุกคน ทั้งในตลาดหุ้น และตราสารหนี้ที่ติดลบทุกคน โดยยังมีความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลกถดถอยที่คาดการณ์ว่าปี 66 จะติดลบทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐ ยุโรป และตามมาด้วยเอเชีย รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่แม้จะไม่ติดลบ แต่เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวไม่ถึง 5% ทำให้คนตกงานว่างงานจำนวนมาก โดยแนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนทางเลือก กระจายความเสี่ยง ลดความผันผวน เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน และลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดเป็นหลัก

สำหรับการเลือกลงทุนต้องดูความเสี่ยงและระยะเวลาในการลงทุน สินทรัพย์ทางเลือกที่แนะนำ มี 6 ประเภท ประกอบด้วย

1.กองทุนทางเลือกที่กลยุทธ์ลงทุนยืดหยุ่น (Quantitative Hedge Fund) ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย และมุ่งสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในทุกสภาพตลาด ที่ผ่านมา KBank Private Banking ได้นำเสนอกองทุน ASP-LEGACY-UI ซึ่งมีจุดเด่นคือกลยุทธ์ในการจับสัญญาณการซื้อขายรายวินาทีด้วยอัลกอริทึม ทำให้มีผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยงที่โดดเด่น

2.กองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วโลก (Global Private Equity Fund) เป็นผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความผันผวนด้านราคาต่ำ สำหรับกองทุน K-GPE19A-UI และ K-GTPE20A-UI ที่ KBank Private Banking แนะนำแก่ลูกค้า สามารถสร้างผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนได้สูงถึง 47.83% ** และ 25.67% ** ตามลำดับ และล่าสุดกองทุน K-GPE22B-UI ซึ่งมีจุดเด่นคือการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมกว่า 50 ธุรกิจ โดยหลังจากการเสนอขายครั้งแรกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นกองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วโลกกองทุนแรกในประเทศไทยที่สามารถระดมเงินทุนได้หลักพันล้านบาท

3.กองทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดทั่วโลก (Global Private Real Estate Fund) เป็นประเภทสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงจากโอกาสในการรับผลตอบแทนในรูปแบบค่าเช่าที่สม่ำเสมอ ที่ผ่านมา KBank Private Banking ได้นำเสนอกองทุน UGREF-UI ซึ่งลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรงกว่า 9,000 โครงการ และรายได้จากผู้เช่าที่มีคุณภาพกว่า 30,000 ราย และมีการกระจายการลงทุนทั้งกลุ่มโรงงาน รีเทล และที่อยู่อาศัย โดยกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีที่ 8.33%

4.กองทุนระดมเงินลงทุนเพื่อให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ โดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน (Private Credit Fund) เป็นการให้สินเชื่อโดยตรงแก่ภาคธุรกิจ เพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยจุดเด่นในการให้สินเชื่อโดยตรงลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating rate) ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งจะให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป สำหรับ KBank Private Banking ได้ร่วมกับ Lombard Odier ในการแนะนำกองทุนประเภทนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเตรียมเสนอขายครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

5.อสังหาริมทรัพย์ไทยนอกตลาด (Thai Private Real Estate) เป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาด เช่น อาคารสำนักงาน ไฟฟ้า และโทรคมนาคม ในประเทศไทย

6.หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงแบบ Knock-In Knock-Out (KIKO) เป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ และสามารถให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยรายเดือนที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถเลือกอ้างอิงผลตอบแทนได้ทั้งตะกร้าหุ้นไทย หรือหุ้นต่างประเทศ ที่ผ่านมา กองทุนที่ KBank Private Banking แนะนำสามารถให้ผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ยสูงถึง 11-13% ต่อปี

“ในสภาวะที่เงินเฟ้อได้กลายเป็นปัญหาระยะยาว และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี’66 การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกจะมีความสำคัญยิ่งขึ้นในการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีตัวเลือกที่หลากหลาย เหมาะกับเป้าหมายของนักลงทุนที่แตกต่างกันไป โดยเคแบงก์ ไพรเวท แบงก์กิ้ง ยังมุ่งมั่นที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ทางเลือกการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ และสอดคล้องไปกับธีมการลงทุนแห่งอนาคต เพื่อเป็นทางรอดให้กับนักลงทุนต่อไป”