หุ้น MASTER รพ.ศัลยกรรมรายแรก ต่อคิวขายไอพีโอต้นปี

ลภัสรดา เลิศภานุโรจ
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

ในปี 2566 นี้ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เตรียมต้อนรับ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามครบวงจรภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ (Masterpiece)” ที่จะเข้าระดมทุนเป็นรายแรก

“แม้เศรษฐกิจโลกปี 2566 จะชะลอตัว แต่เรามั่นใจในการเข้าระดมทุนเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และอยากให้นักลงทุนมั่นใจ เพราะถ้าดูจากผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี พื้นฐานรายได้ กำไร โตต่อเนื่อง มีการจ่ายปันผลที่ชัดเจน และที่สำคัญ เราไม่มีหนี้” ลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่ MASTER กล่าวในการให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ”

ปักธงเข้าเทรดต้นปี 2566

“ลภัสรดา” กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นไอพีโอ และ นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหุ้นไทยได้ช่วงต้นปี 2566 โดยล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายไอพีโอไปแล้ว

ซึ่งตามแผนจะเสนอขายไอพีโอไม่เกิน 65 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.08% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ แยกเป็น 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทไม่เกิน 50 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 20.83% และ 2.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย In Glory Investments Limited ไม่เกิน 15 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 6.25%

นำเงินระดมทุนขยายศูนย์บริการ

“ลภัสรดา” กล่าวว่า บริษัทมีแผนใช้เงินจากการระดมทุน รวมประมาณ 450 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีข้างหน้านี้ (2566-2567) โดยในปี 2566 จะใช้เงินประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงอาคารและห้องผ่าตัดบนพื้นที่โรงพยาบาลเดิม แยกเป็นการเพิ่มห้องผ่าตัด

สำหรับการทำศัลยกรรม จำนวน 10 ห้อง เพิ่มเตียงผู้ป่วยใน สำหรับพักค้างคืน 10 เตียง และเพิ่มเตียงพักฟื้น จำนวน 12 เตียง พร้อมทั้งขยายศูนย์บริการต่าง ๆ เช่น ศูนย์ดูแลผิวพรรณ ศูนย์ปลูกผมและดูแลเส้นผม เป็นต้น

และในปี 2567 จะใช้เงินอีก 350 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการศัลยกรรม การปลูกผมและดูแลเส้นผม และบริการดูแลผิวพรรณและเลเซอร์ และอีกราว 200 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนสำหรับก่อสร้างและปรับปรุงอาคารบนพื้นที่เช่า เพื่อขยายพื้นที่ศูนย์บริการ เช่น ศูนย์ดูแลเส้นผม, ศูนย์ดูดไขมัน, ศูนย์ตา และศูนย์สุขภาพชาย เป็นต้น

ตั้งเป้ารายได้ปี’66 เติบโต 40%

ทั้งนี้ ตามแผนหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยแล้ว คาดว่าในปี 2566 จะมีอัตราการเติบโต 40% เมื่อเทียบจากปี 2565 ที่มีรายได้เติบโตกว่า 100% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า

“เป้ารายได้ดังกล่าวยังไม่รวมแผนการทำดีล M&A (ควบรวมกิจการ) ที่จะเกิดขึ้น โดยเราไม่ปิดโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือ (synergy) ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบเดียวกัน หรือธุรกิจใหม่ที่มองเห็นประโยชน์การเติบโตในอนาคต”

ปัจจุบันรายได้ของ MASTER แบ่งออก 4 ส่วนหลัก คือ 1.บริการด้านศัลยกรรม (surgery) ราว 80% 2.บริการปลูกผมและดูแลเส้นผม (hair transplants and hair treatment) 6-7% 3.บริการดูแลผิวพรรณ (skin) เช่น เลเซอร์, โบท็อกซ์ ฯลฯ 6% และ 4.ขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการหลังศัลยกรรม (product sales and aftercare) อีกราว 7-8%

“พอร์ตหลักของเรามาจากรายได้ศัลยกรรมเสริมจมูกที่ยังคงเป็นอันดับ 1 โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7.9 หมื่นบาท ไปจนถึงแพงสุด 1.2 ล้านบาท ตามมาด้วยศัลยกรรมยกคิ้วแบบ foxy eyes ราคาประมาณ 1.5 แสนบาท ซึ่งเราเชื่อว่าอะไรก็ตามที่อยู่บนหน้าตา

ก็เหมือนบิลบอร์ดเคลื่อนที่ ดังนั้นคนส่วนใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง ก็จะลงทุนตรงนี้ ทำให้รายได้ส่วนนี้จะโตได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันเรามีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ย 200 คนต่อวัน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อรายราว 1.1 แสนบาท” ลภัสรดากล่าว

ปิดจุดเสี่ยงธุรกิจ

ขณะที่ความท้าทายของธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรม “ลภัสรา” กล่าวว่า เป็นเรื่องความพร้อมด้านทีมแพทย์ แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทได้ปิดจุดเสี่ยงตรงนี้ไว้แล้ว โดยตอนนี้บริษัทมีแพทย์ที่ทำงานเต็มเวลามากที่สุด ถ้าเทียบคู่แข่งโรงพยาบาลศัลยกรรม และเป็นเจ้าใหญ่ที่สุดในตลาด

“เรามีคุณหมอฟูลไทม์อยู่ 41 คน เซ็นสัญญาทำงานระยะยาวกับบริษัทสูงสุด 10 ปี และขั้นต่ำเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี โดยเปิดรับสมัครวันเดียวมีแพทย์ต่อคิวสมัคร 60 คน เพราะด้วยชื่อเสียง และเรามีโปรแกรมในการพัฒนา R&D (วิจัยและพัฒนา) และโปรโมตผ่านโซเชียลตามลำดับขั้นด้วย”

คาดหวังลูกค้าต่างชาติโตกระโดด

รองซีอีโอ MASTER กล่าวด้วยว่า เป้าหมายในระยะกลางภายใน 3 ปี บริษัทต้องการเป็นศูนย์กลางด้านศัลยกรรมที่ให้บริการลูกค้าจากทุกเชื้อชาติ โดยหลังโควิด มีลูกค้าต่างชาติมาใช้บริการประมาณ 7% และเชื่อว่าหลังจากมีการเปิดประเทศทั้งหมด สัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มเป็น 30%

“ด้วยความโดดเด่นของเรา เราเชื่อว่าทุกคนจะบินมาใช้บริการกับเรา” รองซีอีโอ MASTER กล่าวอย่างมั่นใจ