คปภ.MOU เพิ่ม 3 นิคมปลุกทำ พ.ร.บ.รถภาคบังคับ เป้า 3 หมื่นคัน

คปภ.-กนอ. ลงนาม MOU

คปภ.-กนอ. เซ็นMOU นำร่องเพิ่มพื้นที่อีก 3 นิคม “ลาดกระบัง-สมุทรสาคร-เวลโกรว์” กระตุ้นคนใช้รถทำประกันภัย พ.ร.บ. เป้าหมายรถจักรยานยนต์ 3 หมื่นคัน หวังส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิประโยชน์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ด้าน “ผู้ว่าการ กนอ.” เล็งใช้ AI เก็บข้อมูลลงทะเบียนรถที่ทำประกันในนิคม

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ได้ลงนาม MOU ว่าด้วยการบูรณาการความร่วมมือส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย พ.ร.บ. (การประกันภัยรถภาคบังคับ) ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งจะเป็นกลไกช่วยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคนเดินเท้า ให้ได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเพื่อเยียวยาความเสียหายอย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความรับผิด และค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้นสำหรับผู้ประสบภัยที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหาย

โดยที่ผ่านมา คปภ. ได้ดำเนินการปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองการประกันภัย พ.ร.บ.มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสม ปัจจุบันหากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 504,000 บาท หรือกรณีที่ได้รับบาดเจ็บต่อร่างกายจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 84,000 บาท

รวมทั้งมีการขยายช่องทางการขายประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อหรือต่ออายุประกันภัย พ.ร.บ. ที่สะดวกยิ่งขึ้น อาทิ ช่องทางเว็บไซต์และเคาน์เตอร์เซอร์วิส นอกเหนือการซื้อผ่านตัวแทนนายหน้าประกันภัย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย พ.ร.บ.สำหรับรถจักยานยนต์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองยาว 3-5 ปี เพื่อเพิ่มทางเลือกและให้ค่าส่วนลดเบี้ยพิเศษเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมีการทำประกันภัย พ.ร.บ.สำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นประเภทรถที่มีการใช้งานเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน และช่วยลดการขายต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ.

ทั้งนี้ในปี 2565 คปภ.และ กนอ.ได้นำร่องความร่วมมือดังกล่าวไปแล้วในพื้นที่ 3 นิคม ประกอบด้วย 1.นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง 2.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และ 3.นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ และในปี 2566 กำลังจะต่อยอดขยายพื้นที่อีก 3 นิคมอุตสาหกรรมฯ

“เราจะต่อยอดผลักดันขยายในพื้นที่นิคมอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความรู้ความเข้าใจสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย พ.ร.บ. และตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัย พ.ร.บ. ซึ่งจริง ๆ กฎหมายบังคับให้ผู้ขับขี่รถต้องทำทุกคัน หากไม่ทำจะมีความผิดทางกฎหมาย”

กนอ.ตั้งเป้าหมายลดอุบัติเหตุ

รศ.ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ตระหนักถึงความปลอดภัยในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุภายในโรงงาน และการใช้รถใช้ถนน โดยปัจจุบัน กนอ.มีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ทั่วประเทศทั้งหมด 67 นิคม โดยดำเนินการอยู่ 64 นิคม และมี 1 ท่าเรืออุตสาหกรรมฯ รวมโรงงานในการนิคมฯกว่า 5,000 โรงงาน มีคนงานในโรงงานประมาณกว่า 9.8 แสนคน

โดยในปี 2565 ในพื้นที่ 3 นิคม ประกอบด้วย 1.อุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง 2.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และ 3.นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ มีรถใช้งานอยู่ทั้งหมด 73,000 คัน มีคนงานอยู่ 120,000 คน โดยจากการดำเนินงานที่ผ่านมาอุบัติเหตุลดลงจากปี 2564 มากถึง 16% เหลือเพียง 146 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 129 คน

อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าผู้เสียชีวิตมากกว่าจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากไฟไหม้หรือระเบิดตามที่เกิดขึ้นในโรงงานทั้งปี

สำหรับในปี 2566 วางแผนขยายพื้นที่ 3 นิคมเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพฯ 2.นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร และ 3.นิคมเวลโกรว์ โดยรวมโรงงานใน 3 พื้นที่นิคมมีอยู่ทั้งหมด 496 โรงงาน มีคนงานกว่า 133,000 คน และมีการใช้รถจักรยานยนต์ประมาณ 30,000 คัน โดยปี 2565 ทั้ง 3 นิคม มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 74 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 18 คน จึงหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้

“สำหรับในปีที่แล้วภาพรวมสถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่กว่า 40 นิคม เกิดขึ้นทั้งหมด 1,443 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 1,112 คน ผู้เสียชีวิต 37 คน โดยคนงานภายในนิคมส่วนใหญ่จะใช้รถจักยานยนต์เป็นหลัก”
ทั้งนี้เนื่องจากในพื้นที่ กนอ.เป็นพื้นที่ปิด เราเล็งว่าจะใช้เทคโนโลยีหรือเอไอ และกล้อง CCTV โดยการเก็บข้อมูลลงทะเบียนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ เพื่อจะเข้าถึงข้อมูลรถว่ามีสัดส่วนมากน้อยแค่ไหนที่ทำประกันภัย พ.ร.บ.ต่อไป