อาคม สั่งแก้ปม แอปดูดเงิน กรุงไทยเชียร์ กฎหมายให้แบงก์ระงับธุรกรรม

รมว.คลังห่วงประชาชนถูกหลอกรายวันอยู่ดี ๆ เงินหายจากบัญชี สั่งแบงก์รัฐเร่งประชาสัมพันธ์ไม่ให้หลงเชื่อกลโกงมิจฉาชีพ ขณะที่ ธปท.-ดีอีเอส-แบงก์ ถกมาตรการรับมือแล้ว “กรุงไทย” คาด พ.ร.ก.เปิดทางแบงก์ระงับธุรกรรมผิดปกติใกล้คลอด ขณะที่แต่ละแบงก์เร่งพัฒนาระบบ AI ตรวจจับธุรกรรมต้องสงสัย

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์การหลอกลวงของมิจฉาชีพที่ระบาดรายวัน โดยบางกรณีก็อยู่ดี ๆ แล้วเงินหายไปจากบัญชีนั้น ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ก็ได้หารือร่วมกันเพื่อหาทางดูแลป้องกัน

• สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
• อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
• “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้

ซึ่ง ธปท.ก็จะเพิ่มความเข้มงวดการทำธุรกรรมมากขึ้น โดยให้ธนาคารพาณิชย์ต้องให้ลูกค้ายืนยันตัวตนด้วย biometric มีการตรวจสอบข้อมูลการโอนต่าง ๆ ขณะที่ในส่วนธนาคารของรัฐก็เช่นเดียวกัน ตนก็ได้สั่งการให้สถาบันการเงินประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น โดยส่วนหนึ่งเจ้าของบัญชีก็ต้องระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อ การส่งข้อความ หรือเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ ที่โทร.เข้ามาด้วย

“ประชาชนก็ต้องอย่าหลงเชื่อ อย่างที่แอบอ้างชื่อต่าง ๆ กระทรวงการคลังก็โดน กรมสรรพากรหนักที่สุด หลอกว่าจะได้รับเงินคืนภาษีบ้าง เบี้ยปรับบ้าง ซึ่งต้องยืนยันว่าทุกกรมไม่มีหน่วยงานไหนที่ให้เจ้าหน้าที่โทร.หาประชาชน” นายอาคมกล่าว

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการหลอกลวงที่ระบาดมีเคสเกิดขึ้นทุกวัน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ซึ่งการป้องกันจะต้องทำตั้งแต่ต้นทาง คือ ระบบอินเทอร์เน็ตไปจนถึงจุดสุดท้าย คือการโอนเงินข้ามธนาคาร ที่จะต้องระงับธุรกรรมที่ผิดปกติให้ทัน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมาก โดยส่วนนี้ต้องปลดล็อกกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล

“กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลมีรายละเอียดที่ทำให้ไม่สามารถระงับได้เร็ว ซึ่งกระทรวงดีอีเอส จะออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้การระงับทำได้เร็ว แบงก์สามารถบล็อกธุรกรรมที่ผิดปกติได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องรอว่าต้องไปแจ้งความก่อน” นายผยงกล่าว

ส่วนการดำเนินการของแบงก์ ก็จะมีระบบ Central fraud registry หรือ ศูนย์ตรวจเช็กธุรกรรมที่มีความเสี่ยงทุจริตหรือต้องสงสัย ซึ่งดำเนินผ่าน บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (ITMX) ที่จะเป็นตัวกลางในการดำเนินการ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยับยั้ง

“การดำเนินการเรื่องนี้ ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ จะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ การดำเนินการภายในแต่ละแบงก์ ตอนนี้ก็มีการใช้ AI มาตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัย และส่วนที่ต้องดำเนินการข้ามธนาคาร” นายผยงกล่าว

• อาคม ชวนสมาชิก กอช. ออมผ่าน เป๋าตัง มั่นใจ ไม่ถูก ดูดเงิน