วิธีเลือกซื้อประกันชีวิต แบบส่วนผสมของกาแฟ

ประกันชีวิต
คอลัมน์ : คุยฟุ้งเรื่องการเงิน
ผู้เขียน : พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน (ทอมมี่ แอคชัวรี)

ด้วยภาวะการแข่งขันที่สูงในปัจจุบันส่งผลให้บริษัทประกันชีวิตแข่งกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ทำให้หลาย ๆ ครั้งผู้บริโภคสับสนว่าเวลาจะเลือกซื้อประกันชีวิตให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรจะพิจารณาอย่างไร

ผมจึงอยากแนะนำวิธีการพิจารณาเลือกซื้อแบบการประกันชีวิต เพื่อให้ผู้ซื้อได้ประโยชน์สูงสุดควรพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.ตรวจเช็กสุขภาพทางการเงินของตนเองก่อน ว่ามีทุนประกันอยู่เพียงพอที่จะให้คนข้างหลังได้ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปโดยที่ไม่เดือดร้อนทางการเงินได้นานกี่เดือนหรือกี่ปี

2.มองหาแบบประกันที่ตรงกับช่วงจังหวะชีวิตของตนเอง เพราะแต่ละวัยย่อมมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน โดยให้มองถึงระยะเวลาของความคุ้มครองด้วย รวมถึงระยะเวลาในการชำระเบี้ย อีกทั้งให้วางแผนล่วงหน้าว่าแบบประกันชีวิตนี้สามารถเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมอะไรได้บ้าง

3.ต้องการการันตีมากน้อยแค่ไหน เพราะปัจจุบันมีให้เลือกตั้งแต่แบบประกันทั่วไป (ที่บริษัทประกันภัยรับความเสี่ยงไว้เอง) แบบประกันยูนิเวอร์ซอลไลฟ์ (ที่บริษัทประกันภัยคอยประกาศจ่ายให้ Crediting rate เป็นระยะ) หรือแบบประกันยูนิตลิงก์ (ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนเองทั้งหมด) เป็นต้น

ทั้งนี้ ประชาชนไม่ควรใช้อัตราผลตอบแทน (IRR) มาใช้ในการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว เนื่องจากแบบประกันชีวิตแต่ละแบบมีส่วนผสมของความคุ้มครองที่ไม่เหมือนกัน เวลาที่นักคณิตศาสตร์ประกันภัยออกแบบผลิตภัณฑ์นั้นจะคำนึงถึงสัดส่วนของการสะสมทรัพย์ กับความคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก เช่น เบี้ยประกันชีวิต 100 บาทที่ได้รับมานั้น

สำหรับแบบประกันชีวิตของบริษัทหนึ่งอาจจะเป็นการสะสมทรัพย์ 80 บาท และความคุ้มครองชีวิต 20 บาท

ส่วนสำหรับของอีกบริษัทหนึ่งอาจจะเป็นการสะสมทรัพย์ 70 บาท และความคุ้มครองชีวิต 30 บาท การที่ดูอัตราผลตอบแทน (IRR) เพียงอย่างเดียว จะบอกได้แค่ผลตอบแทนในส่วนของการสะสมทรัพย์เท่านั้น อีกทั้งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตบางแบบอาจจะมีส่วนผสมของเบี้ยประกันภัยในส่วนของการสะสมทรัพย์เพียงแค่ 10 บาท และเบี้ยประกันภัยสำหรับความคุ้มครองชีวิตถึง 90 บาทก็เป็นได้

ด้วยสัดส่วนที่แตกต่างกันเหล่านี้ จึงทำให้นำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตต่างแบบมาเปรียบเทียบกันด้วย IRR อย่างเดียวไม่ได้ หรืออาจเทียบให้เห็นภาพเช่นเดียวกับกาแฟ ที่มีวิธีการปรุงหลายแบบ อาทิ ลาเต้ มอคค่า คาปูชิโน่ เอสเพรสโซ่ ต่างก็มีส่วนผสมของเนื้อกาแฟและนมที่แตกต่างกัน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ากาแฟที่ปรุงแบบไหนดีกว่ากัน

นอกจากนี้ เงินสดคืนของแต่ละแบบประกันชีวิตก็มีไม่เหมือนกัน บางแบบจ่ายก่อน บางแบบจ่ายหลัง บางแบบให้ฝากคืนกลับบริษัทได้ แต่บางแบบฝากคืนกลับไม่ได้ การคำนวณอัตราผลตอบแทน (IRR) นั้น มีข้อจำกัดตรงที่เป็นวิธีการที่สมมุติว่าเงินสดคืนนั้นสามารถฝากกลับกับบริษัทได้ด้วยอัตราผลตอบแทนที่สูงแบบ IRR

ดังนั้นการคำนวณอัตราผลตอบแทน (IRR) มาใช้เปรียบเทียบจึงเป็นการพยายามเอาแอปเปิลมาเปรียบเทียบกับส้ม ประชาชนไม่ควรลืมว่า การซื้อประกันชีวิตคือการสะสมทรัพย์ที่มีความคุ้มครองไปด้วย บ่อยนักที่เราจะเห็นแบบประกันชีวิตที่มีอัตราผลตอบแทน (IRR) สูง แต่ให้ประโยชน์กับผู้เอาประกันภัยบางกลุ่มสู้แบบประกันชีวิตที่มีอัตราผลตอบแทน (IRR) รองลงมาแต่มีทุนความคุ้มครองชีวิตที่คุ้มค่ากว่าไม่ได้

ดังนั้น ในการเลือกซื้อประกันชีวิต ต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เพราะทุกคนมีความเสี่ยง มีความต้องการ มีความมุ่งหวังที่แตกต่างกัน การวางแผนทางการเงินจึงอาจแตกต่างกัน และทุกแบบประกันชีวิตก็มีส่วนผสมที่ออกแบบมาเพื่อให้ลงตัวในแบบของมันเอง