คลื่นลูกใหม่ กับ นวัตกรรมการปล่อยสินเชื่อ

คลื่นลูกใหม่กับนวัตกรรมของการปล่อยสินเชื่อ

 

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 Pham Quang Minh ผู้จัดการทั่วไป Mambu ประเทศไทย เปิดเผยว่า สินเชื่อดิจิทัลในประเทศไทยเติบโตอย่างมากนับตั้งแต่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดตัว Digital Personal Lending License ในปี 2563 โดยมีผู้ให้บริการหลายราย เช่น MoneyThunder, Line BK หรือ Rabbit Cash เป็นต้น

ซึ่งทำให้ได้รับประโยชน์จากกระบวนการปล่อยสินเชื่อดิจิทัล ตัวอย่างเช่น MoneyThunder ที่มีรายงานการดาวน์โหลดมากกว่า 8 ล้านครั้ง ในขณะที่ Line BK มีฐานลูกค้ามากกว่า 4.7 ล้านคน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เนื่องจากความต้องการสภาพคล่องของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถาบันเหล่านี้จึงหาทางรับมืออย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

อ้างอิงจาก Ascend Money บริษัทสตาร์ตอัพฟินเทคของไทยที่อยู่เบื้องหลังบริการอีวอลเล็ตที่หลายคนรู้จักอย่าง TrueMoney ระบุว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในรอบนี้จะนำไปใช้เพื่อขยายแอปพลิเคชั่นอีวอลเลตของบริษัทอย่าง TrueMoney Wallet และขยายบริการทางการเงินดิจิทัล ตั้งแต่สินเชื่อดิจิทัลและการลงทุนดิจิทัล ไปจนถึงการโอนเงินข้ามพรมแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากรายงาน 2021 Mobile Wallets ของบริษัทฟินเทคสัญชาติอังกฤษแห่งหนึ่งระบุว่า TrueMoney เป็นแอปพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด ถึง 53% ในไทย

ความต้องการสินเชื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่มาจากข้อกำหนดที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยสาสามารถใช้ข้อมูลอื่นในการตรวจสอบได้ เช่น ค่าสาธารณูปโภค หรือค่าโทรศัพท์ใช้สำหรับการอนุมัติสินเชื่อ เพื่อเป็นการช่วยให้ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถเข้าถึงการให้กู้ยืมแบบดิจิทัล

เป็นการแก้ปัญหาด้านการเข้าถึงทางสังคมการเงินในประเทศไทยกับกลุ่มคนที่ไม่ได้รับสินเชื่อธนาคาร จากการที่คอยช่วยเหลือผู้ให้บริการ จึงทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าและส่วนแบ่งตลาด ได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ MoneyThunder ที่เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารอย่างเป็นทางการ และ กว่า 40% เคยเป็นผู้กู้เงินด่วน

การให้ยืมแบบดิจิทัลกำลังเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง และยังได้รับความสำคัญ จากเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ทั้งจากผู้ให้กู้และผู้ยืม ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่า ไม่เพียงแต่ในแง่ของกระบวนการและข้อกำหนดในการขอสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังใช้เวลาอนุมัติไม่นาน

เนื่องจากมีเงินทุนพร้อมให้บริการที่เร็วขึ้น ผู้ให้กู้ยังสามารถประหยัดต้นทุน เพราะการใช้ดิจิทัลทำให้ลดขนาดการดำเนินงานของส่วนหน้าบ้านและหลังบ้านได้ และมีประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้น ผู้ให้กู้ไม่เพียงแค่ได้ลูกค้า และยังประหยัดเวลามากขึ้น แต่ยังสามารถกำหนดราคา กำไรที่สูงขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากพวกเขาสามารถตัดสินใจด้านสินเชื่อได้เร็วกว่าธนาคาร ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นทั้งสองอย่าง ทั้งเรื่องของการประหยัดต้นทุน และเพิ่มปริมาณรายได้ จากการเข้าถึงลูกค้าที่มีบัญชีต่ำเหล่านี้ทั้งหมด

สินเชื่อเปรียบเสมือนหัวใจหลักสำคัญของการทำกำไรในสถาบันการเงิน แต่ปัจจุบันรูปแบบของการอนุมัติสินเชื่ออาจเปลี่ยนแปลงเป็นในรูปแบบของการให้กู้ยืมแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้องทบทวนอีกครั้งในเรื่องของข้อเสนอสินเชื่อทั้งหมดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีปัจจัยเล็ก ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

ทำให้การให้สินเชื่อแบบดิจิทัลเป็นวิธีเดียวที่จะทำความเข้าใจการให้สินเชื่อ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรรมในการจัดองค์ประกอบเพื่อนำเสนอลูกค้าโดยให้ลูกค้าเป็นหัวใจหลัก และได้เปรียบในการแข่งขัน

ผู้ให้สินเชื่อดิจิทัลสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่และฐานลูกค้าเดิมเพื่อขอสินเชื่อ รับการเบิกจ่ายสินเชื่อ สอบถามข้อมูลต่าง ๆ การบริการด้านบัญชี และชำระเงินจากระยะไกล การก้าวเข้าสู่ดิจิทัลช่วยทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างง่ายยิ่งขึ้น

เช่น เรื่องของความสะดวกสบาย และเปิดโลกใหม่ โลกแห่งความเป็นไปได้ ด้วยนวัตกรรมที่สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่มา ตราบใดที่ทางธนาคารยังมีความคล่องตัว รวดเร็ว และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ความสามารถในการแยกส่วนจึงเป็นบันไดสู่ความสำเร็จในเรื่องของอินเตอร์เฟซ หรือที่รู้จักอีกอย่างว่า การเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชั่น (API) ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ง่าย รวดเร็ว และยังประหยัดต้นทุน

Mambu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการธนาคารหลักบนระบบคลาวด์ (Cloud Banking Platform) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านความสามารถในการแยกส่วน โดยให้บริการลูกค้ามากกว่า 250 แห่ง ใน 65 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีตั้งแต่ธนาคารรายใหญ่ไปจนถึงรายย่อย ผู้ปล่อยสินเชื่อ Fintech ชั้นนำ ผู้ค้าปลีก (Retail) ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และอื่น ๆ อีกทั่วโลก เพื่อการเติบโตผ่านการนำการแยกส่วนในการรวมเข้าด้วยกัน

ประการแรก เทคโนโลยีดิจิทัล และโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ช่วยปลดล็อคศักยภาพของข้อมูลในเชิงของการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่ออนุมัติสินเชื่อ การใช้ real-time data จากการทำธุรกรรม การขายออนไลน์ หรือโทรคมนาคมช่วยทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงในการกู้ยืม และพัฒนาโมเดลของธุรกิจสินเชื่อได้อีกด้วย

ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถช่วยธุรกิจในรูปแบบ cross-functional หรือการบริหารที่ข้ามสายงาน ในเชิงของการตลาดและการขายเป็นตัวอย่าง และยังช่วยสร้างการจำแนกประเภทข้อมูลที่เป็นการขายกี่ยวเนื่องจากสินค้าหลัก

อย่างที่สอง ลูกค้าค่อย ๆ เริ่มมีความต้องการที่มากขึ้น พร้อมความคุ้มค่าที่มากขึ้น และความสะดวกสบายเหนือสิ่งอื่นใด ลูกค้าชาวไทยคาดหวังการทำการตลาดแบบเข้าใจลูกค้ามากขึ้น (ตรงใจลูกค้า) ไม่ใช่แค่ในส่วนของการเงิน และการธนาคาร

แต่รวมไปถึงค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม หรือการท่องเที่ยว ความเสี่ยงในการแข่งขันได้ปรับราคา และก่อให้เกิดรอบจ่ายเบิกที่รวดเร็วกว่าเดิม ด้วยเงินทุกที่มีอยู่ในทันที จึงทำให้เป็นตัวแปรสำคัญในการแข่งขันในตลาดกู้ยืม

อย่างที่สาม ตลาดนี้ถูกคาดหวังให้มีการแข่งขันที่มากขึ้น เพราะธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินธุรกิจบนช่องทางดิจิทัลจะเริ่มให้บริการในปีหน้า ตัวเลือกของลูกค้าจะมากขึ้น จากการเลือกกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดรองลงมา

บริษัท Fintech หรือการปรับใช้การเงินแบบฝังตัวในช่องทางที่ไม่มีระบบการจัดการการเงิน ตัวอย่างเช่น แอปส่งอาหาร หรือช็อปปิ้ง แค่ธุรกิจที่ปรับตัวเข้ากับองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยทำให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการกู้ยืมแบบไร้รอยต่อ หรือสะดวกสบายนั่นเอง

การกู้ยืมแบบดิจิทัลมีความท้าทาย เพราะเนื่องจากการทำของธนาคารแบบเก่า หรือทำงานแบบแยกส่วน (operations, risk, credit decisioning, analytics, or IT) จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกันเป็นมีประสิทธิภาพ เพราะว่าแต่ละแผนกมีการปรับตัวที่แตกต่างกัน หลายองค์กรไม่สามารถปรับตัวเข้ากับความซับซ้อน และใช้ประโยชน์จากเครื่องมือใหม่ ๆ ได้

ทำให้พวกเขาสูญเสียข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจ และลูกค้าไป ในการปรับตัวในยุคนี้ ผู้ให้บริการสินเชื่อ ยึดหลัก agile หรือการจัดการที่ว่องไว ด้วยกันกับใช้ cloud native platform หรือรูปแบบของการพัฒนาแอปพลิเคชั่นยุคใหม่ โดยออกแบบเพื่อรองรับ การประมวลผลในรูปแบบคลาวด์ เช่น  Mambu ช่วยทำให้ทันกับตลาดที่พัฒนาแล้ว และปรับเปลี่ยนความคาดหวังของลูกค้า ได้อย่างอิสระและรวดเร็ว

 

อนึ่ง Mambu เป็นระบบธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบ SaaS ที่เข้ามาพลิกโฉมผลิตภัณฑ์เงินฝากและเงินกู้แบบเดิม ๆ Mambu เปิดตัวในปี 2554 และปัจจุบันได้มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างวิวัฒนาการและการเติบโตในยุคดิจิทัลให้กับสถาบันการเงิน ต่างๆ ตั้งแต่องค์กรฟินเทคไปจนถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคมและธุรกิจอื่น ๆ


โมเดล Composable Banking ของ Mambu มีความแตกต่าง โดยส่วนประกอบ ระบบ และตัวเชื่อมต่อต่าง ๆ สามารถนำมาประกอบและปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่นพร้อมช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ Mambu มีพนักงานกว่า 900 คน ให้บริการและดูแลลูกค้า 250 รายใน 65 ประเทศ รวมถึง N26, BancoEstado, OakNorth, Raiffeisen Bank, ABN AMRO, Bank Islam และ Orange Bank www.mambu.com