FETCO ผนึกพันธมิตร แก้กฎหมายอุปสรรคตลาดทุนไทย

ตลาดหุ้น

FETCO ผนึก 7 องค์กรพันธมิตรตลาดทุนเปิดตัว “โครงการปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจในตลาดทุนไทย” ปลดล็อกกฎเกณฑ์ ลดต้นทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ตลาดทุน 

วันที่ 21 มีนาคม 2566 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ FETCO กล่าวว่า การดำเนินงานเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายต่าง ๆ ล้วนมีค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนแฝงของผู้ประกอบธุรกิจ กฎระเบียบและกฎหมายที่ไม่จำเป็นหรือล้าสมัยย่อมส่งผลกระทบไปถึงการประกอบธุรกิจและการทำธุรกรรมในตลาดทุนของนักลงทุน

นอกจากนี้ ยังเป็นอุปสรรคต่อการสร้างนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขัน ทั้งทางด้านเศรษฐศาสตร์และตลาดทุนโดยรวม FETCO ในฐานะผู้แทนองค์กรเอกชนภาคตลาดทุน ขอขอบคุณสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชนที่ให้เกียรติร่วมโครงการ

ซึ่งโครงการครั้งนี้จะทำร่วมกับ 7 องค์กรสมาชิกสภาธุรกิจตลาดทุนไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดยจะร่วมกันช่วยทบทวนถึงจุดเป้าหมายหลักที่จะต้องจัดการให้ได้ซึ่งเป็นปัญหาทางกฎหมายที่ต้องการจะปลดล็อกของแต่ละองค์กร โดยจะมีทาง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เข้ามาเป็นผู้ที่ดำเนินการด้านกฎหมาย และหลังจากนั้นจะดำเนินการขับเคลื่อนให้เกิดการปลดล็อก

“คาดว่าโครงการนี้มีโอกาสประสบความสำเร็จพอสมควร เนื่องจากการพัฒนากฎหมายตลาดทุนเป็นสิ่งสำคัญ และเชื่อว่าทุกคนให้ความสำคัญ และเชื่อว่าพลังความร่วมมือครั้งนี้เป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จของโครงการที่จะปลดล็อกพันธนาการที่เป็นภาระของตลาดทุนและผู้ลงทุน ทำให้ตลาดทุนเป็นแหล่งการออม การลงทุน และการระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันและเติบโต ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยในระยะยาว” ดร.กอบศักดิ์ กล่าว

นายธวัชชัย ทิพยโสภณ รองเลขาธิการ สายกฎหมายและสายบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้มีการดำเนินการในการเปิดรับความคิดเห็น เพื่อปรับปรุงเกณฑ์ข้อบังคับในตลาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการปฏิรูปกฎเกณฑ์ด้านตลาดทุนเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจและลดภาระประชาชน (Regulatory Guillotine) ซึ่งมีโครงการย่อยกว่า 88 โครงการ เเล้วเสร็จรวม 58 โครงการ ซึ่งเป็นการปรับปรุงเกณฑ์ให้ทันสมัยและลดภาระ อาทิ การปรับปรุงประกาศออกขายตราสารทุน หรือการปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

“ดังนั้น โครงการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก และอาจจะเป็นการทำงานที่ขยายวงกว้างและต่อเนื่องจากสิ่งที่ทาง ก.ล.ต. หรือหน่วยงานอื่น ๆ ทำมา ซึ่งอยากให้ทุกคนสนับสนุนให้เกิดขึ้น รวมถึงวางเป้าหมายร่วมกันอย่างจริงจัง” นายธวัชชัยกล่าว

 

ขณะที่ ดร.กิรติพงษ์ แนวมาลี หัวหน้าทีมการปฏิรูปกฎหมาย และนักวิชาการอาวุโส TDRI กล่าวว่า การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ มีความจำเป็น เพื่อให้กฎหมายสอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ลดต้นทุนแก่ผู้ประกอบธุรกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยเป้าหมายของโครงการเพื่อศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เพื่อทบทวน ยกเลิกและปรับปรุง รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบเชิงต้นทุนที่ผู้ประกอบการเอกชนต้องแบกรับ

นอกจากโครงการมีเป้าหมายในการนำข้อเสนอแนะจากการทบทวนกฎหมายที่ถูกผลักดันโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการปรับปรุงแก้ไข หรือยกเลิกกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ทบทวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ในเวลา 5 ปี เพื่อให้เกิดการปรับปรุงกฎหมายที่ดีและมีความยุติธรรมมากขึ้น