บล.กสิกรไทยไขปม ทำไมการเทขายตราสาร AT1 สร้างกังวลธนาคาร ?

บล.กสิกรไทย

บล.กสิกรไทยวิเคราะห์ผลกระทบจากกรณีการควบรวมกิจการ “เครดิตสวิส-UBS” ที่ทางการสวิตเซอร์แลนด์สั่งลดค่าตราสารทางการเงิน AT1 ลงเหลือศูนย์ ไขคำตอบ “ทำไมการเทขายตราสาร AT1… จึงสร้างความกังวลในกลุ่มธนาคาร ?”

วันที่ 27 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกบทวิเคราะห์ เรื่อง “ทำไมการเทขายตราสาร AT1… จึงสร้างความกังวลในกลุ่มธนาคาร ?”

โดยระบุว่า ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ Credit Suisse (CS) กล่าวว่า ตราสารทางการเงินที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนสำรองชั้นที่ 1 หรือ Additional Tier 1 (AT1) มูลค่า 1.724 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จะถูกลดค่าลงเหลือศูนย์ตามคำสั่งของหน่วยงานกำกับดูแลของสวิส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการควบรวมกิจการกับ UBS เพื่อยุติวิกฤตธนาคารล้ม

ข่าวดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการถือครอง AT1 ที่ออกโดยสถาบันการเงินต่าง ๆ เนื่องจากเมื่อเกิดภาวะล้มละลาย ผู้ถือตราสาร AT1 มีโอกาสจะไม่ได้รับอะไรเลย ในขณะที่ผู้ถือตราสารทุนซึ่งมีลำดับความสำคัญต่ำกว่าผู้ถือตราสาร AT1 สำหรับการชำระคืนในกระบวนการล้มละลายยังจะได้รับเงินทุนบางส่วนคืน

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดการเทขายตราสาร AT1 ทั่วธนาคารในยุโรปและธนาคารไทยบางแห่ง แม้ว่าการลดลงของมูลค่าตราสาร AT1 ของธนาคารจะไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนของทุน แต่เราเชื่อว่าต้นทุนในการออกตราสาร AT1 ในอนาคตจะสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรับรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตราสารทางการเงินประเภทนี้เมื่อมีเหตุการณ์ล้มละลายเกิดขึ้น

คาดกระทบต่อกลุ่มธนาคารไทยจำกัด

ในมุมมองของ บล.กสิกรไทย เกี่ยวกับประเด็นตราสาร AT1 คาดว่าผลกระทบต่อภาคธนาคารไทยจะมีจำกัด เนื่องจาก

1.ธนาคารไทยไม่ได้พึ่งพาตราสาร AT1 เป็นเงินทุนมากนัก

2.เงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารไทยสูงมากที่ 16.68% เทียบกับข้อกำหนดขั้นต่ำที่ 8.0% หมายความว่าธนาคารไทยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงตราสาร AT1 มากนัก

3.ตราสาร AT1 คิดเป็นเพียง 3.1% ของเงินทุนธนาคารทั้งหมด และคิดเป็น 0.6% ของสินทรัพย์เสี่ยงในไตรมาส 4/2565

นอกจากนี้ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการขาดทุนจากการลงทุนในตราสารทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ CS สำหรับธนาคารไทย เมื่อตรวจสอบกับ IR ของแต่ละธนาคาร ได้แก่ KKP, KTB และ TTB พบว่าไม่มีผลกระทบใด ๆ จากการตัดจำหน่ายตราสาร AT1 ของ CS และธุรกรรมอื่น ๆ กับ CS ในขณะที่ธนาคารอื่น ๆ จะชี้แจงว่าพวกเขามีความเสี่ยงต่อธุรกรรมกับ CS หรือไม่โดยเร็วที่สุด

ผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนต้องติดตามต่อไป

นอกเหนือจากปัญหาตราสาร AT1 ของ CS แล้ว บล.กสิกรไทย เห็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการขาดทุนของตลาดจากการลงทุนในตราสาร AT1 ของธนาคารอื่นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เนื่องจากราคาตราสาร AT1 ที่ลดลงทั่วโลกเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าธนาคารใดที่มีเงินลงทุนใน AT1 เท่าใดสำหรับแต่ละธนาคาร

อย่างไรก็ตาม คาดผลขาดทุนจากการลงทุนใน AT1 จะไม่มากนัก เนื่องจากระยะเวลาของตราสาร AT1 นั้นยาวนาน และจะไม่ตรงกับระยะเวลาของหนี้สินธนาคาร


“เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคารจากอัตราส่วนเงินกองทุนที่เพียงพอเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทย” บล.กสิกรไทยระบุ