หุ้นกู้ออกใหม่ ดอกเบี้ยสูงสุด 7.25% ขายเดือนเมษายน 66

หุ้นกู้-อสังหาฯ

เช็กรายชื่อหุ้นกู้ออกใหม่ขายเดือนเม.ย.66 เครดิตดีจ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.25% ต่อปี

วันที่ 29 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกหุ้นกู้ของบริษัทต่าง ๆ ยังคงทยอยวางขายกันอย่างต่อเนื่อง  “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมหุ้นกู้เตรียมวางขายในเมษายน 2566 มานำเสนอ ดังนี้

บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือ LOTUSS

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (ไม่รวมถึงบุคคลธรรมดาที่จองซื้อในฐานะผู้ลงทุนสถาบัน) หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้

ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 อัตราดอกเบี้ย 2.80-2.95% ต่อปี

ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569 อัตราดอกเบี้ย 3.20-3.30% ต่อปี

ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571 อัตราดอกเบี้ย 3.50-3.60% ต่อปี

ชุดที่ 4 อายุ 8 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2574 อัตราดอกเบี้ย 3.75-3.85% ต่อปี

ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2576 อัตราดอกเบี้ย 4.00-4.15% ต่อปี เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 17 – 19 เมษายน 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 – องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “A+” และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “A+”แนวโน้ม “A+”

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ นำไปชำระเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศ เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยเงินกู้ยืมดังกล่าวมีกําหนดชําระคืนภายใน 3 ปี นับจากวันกู้ยืม (วันที่ 21 ตุลาคม 2567) และไม่มีหลักทรัพย์คํ้าประกัน ซึ่งประกอบด้วย

  1. เงินกู้ยืมจํานวน 1,700 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย LIBOR 3 เดือน บวกร้อยละ 1.95 ต่อปี
  2. เงินกู้ยืมจํานวน 26,000 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ ร้อยละ 2.25 ต่อปี สําหรับธนาคารที่เป็นผู้จัดการการจัดจําหน่ายหุ้นกู้ และให้สินเชื่อเงินกู้ยืมระยะยาวแก่บริษัทฯ มีมูลหนี้รวม 24,400 ล้านบาท และ 99 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ -ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) -ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) -ธนาคารทหารไทยธนชาต จํากัด (มหาชน) – ธนาคารยูโอบี จํากัด (มหาชน) และ United Overseas Bank Limited

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (โดยไม่รวมถึงบุคคลธรรมดา) หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้

  • ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571 อัตราดอกเบี้ย [ ]% ต่อปี
  • ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2573 อัตราดอกเบี้ย [ ]% ต่อปี
  • ชุดที่ 3 อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2576 อัตราดอกเบี้ย [ ]% ต่อปี

เปิดให้จองซื้อในเดือนเมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AA+(tha) และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AA+(tha)

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้ 1. เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ของ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ครั้งที่ 1/2559 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี พ.ศ. 2566 (AWN235A) ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 2. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 3.80-3.90% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

ผู้ค้ำประกัน : บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด ได้ออกสัญญาค้ำประกันสำหรับหุ้นกู้ ฉบับลงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2566 ให้แก่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้ (“สัญญาค้ำประกัน”) ทั้งนี้ โปรดพิจารณารายละเอียดของสัญญาค้ำประกัน ตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้าย 1 ของข้อกำหนดสิทธิซึ่งได้มีการเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดภายใต้เอกสารแสดงรายละเอียดหุ้นกู้

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม และ 3-4 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2566 โดยองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB+” และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable” โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน

บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด หรือ TAA

คาดออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

โดยมีผู้ค้ำประกัน คือ บริษัท เอเชีย เอวิชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 100% ตกลงเป็นผู้ค้ำประกันการชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และจำนวนเงินอื่นใดที่บริษัทต้องชำระภายใต้ข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BB” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนมิถุนายน 2566 และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 3 ปี 2 เดือน 11 วัน ดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 24 – 26 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+ และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้ 1. ชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2563 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566 และ 2. ผู้ออกหุ้นกู้จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั่วไปของผู้ออกหุ้นกู้ และ/หรือ เพื่อขยายธุรกิจของผู้ออกหุ้นกู้

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE

คาดออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566  โดยองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB” และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB” แนวโน้ม “Stable”

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้ 1. เพื่อชําระคืนหนี้หุ้นกู้ NOBLE234A และ NOBLE234B 2. เพื่อชําระคืนหนี้หุ้นกู้ NOBLE23OA 3. ผู้ออกหุ้นกู้จะนําเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดําเนินธุรกิจของผู้ออกหุ้นกู้

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 12 ปี ดอกเบี้ย [ยังไม่ระบุ]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (ไม่รวมผู้ลงทุนรายใหญ่ที่เป็นบุคคลธรรมดา)

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม และ 3 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “AA+” และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “AA+”

บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

โดยมีหลักประกันคือ 1.จำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จ.ระยอง มูลค่า 453 ล้านบาท 2.หุ้นสามัญของบริษัทโรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 3.หน่วยลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แกรนด์โฮสพีทาลิตี้ 4.สิทธิในบัญชเีงินฝากธนาคาร โดยมูลค่าหลักประกันข้อ 1-3 ไม่ต่ำกว่า 1.2 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ และข้อ 4 ไม่ต่ำกว่า 1 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้สำรอง

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 21-26 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566  โดยองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BB-” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้ 1. เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดเดือนพฤษภาคม 2566 และ 2. เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงกำรของกลุ่มบริษัทและบริษัทร่วม และ/หรือใช้บริหำรเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการและชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด

บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 2 ปี 10 เดือน ดอกเบี้ย 6.00-6.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 20-21 และ 24 เมษายน 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB-” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระหนี้เดิมของบริษัท และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE

คาดออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 1 ปี 10 เดือน ดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB-” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ ดังนี้ 1. เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ใช้ชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทที่จะครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ 10 เมษายน 2566(TSE234A) วงเงินที่จะเบิกใช้ประมาณ : 1,099.60 ล้านบาท วันครบกำหนดชำระหนี้ภายใน เดือนเมษายน 2566 และ 2. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทของผู้ออกหุ้นกู้

บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 2 ปี 6 เดือน 7 วัน ดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB-” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อเพื่อใช้ลงทุนในโครงการก่อสร้างสายพานเป็นจํานวนเงินประมาณ 250 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน คาดว่าจะใช้เงินจํานวนดังกล่าวภายใน 1 ปีนับจากวันออกหุ้นกู้

บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6.50-6.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2566  องค์กรไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อลงทุนโครงการใหม่ เช่น Jas Green Village บางบัวทอง, Jas Green Village รามคำแหง, Jas Green Village ประเวศ, Senera บาง บัวทอง, Senera คู้บอน, โครงการ mixed-used ที่จังหวัดระยองและขอนแก่น รวมถึงโครงการใหม่อื่นๆที่ จะเกิดขึ้นในอนาคต

บริษัท ไบรท์ ดีเวลลอปเมนท์ กรุงเทพ จำกัด หรือ BDB

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

หลักประกันคือ จำนองที่ดิน บริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ 9/1 เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 3-1-42.70 ไร่ มูลค่าประเมิน 510,000,000 บาท ประเมินมูลค่าโดยผู้ประเมินที่ได้ร้ับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมีมูลค่าหลักประกันรวมไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่าของมูลค่าตราสารหนี้ที่ออกและเสนอขายได้

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 21-24 และ 25 เมษายน 2566  องค์กรไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในดังนี้ 1. ผู้ออกหุ้นกู้จะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้คร้ังนี้ไป ไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด จำนวนเงิน 350 ล้านบาท ในวันที่ 28 เมษายน 2566 สำหรับ “หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไบรท์ ดีเวลลอปเมนท์ กรุงเทพ จำกัด คร้ังที่1/2563ครบกำหนดไถ่ถอนปีพ.ศ. 2566” และดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2. ผู้ออกหุ้นกู้จะนำเงินที่ได้จำกกำรออกหุ้นกู้ในคร้ังนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องแก่บริษัท

บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้

  • ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 อัตราดอกเบี้ย 5.25% ต่อปี
  • ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569 อัตราดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี

หลักประกัน คือ จำนำหุ้นสามัญของบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ที่ถือกรรมสิทธิ์โดยผู้ออกหุ้นกู้จำนวน 451,127,900 หุ้น โดยมูลค่าที่จำนำคิดตามมูลค่าบัญชี ณ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งเท่ากับ 1.33 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลักประกันรวมทั้งสิ้น 600,000,107 บาท

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BBB-” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้ 1. เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันของ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) จำนวนประมาณ 142.60 ล้านบาท ที่จะครบกำหนด วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 2. บริษัทคาดว่าจะใช้เงินทุนหมุนเวียนดังกล่าวเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย อาทิ ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าที่ปรึกษาดำเนินโครงการ รวมถึง ค่าใช้จ่ายในการบริหารอื่นๆ เป็นต้น รวมถึงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ

บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SASST

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 1 ปี 3 เดือน ดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BB+” หุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้ 1. บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปใช้ชำระหนี้หุ้นกู้รุ่น SASST235A ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน เดือน พฤษภาคม 2566 2. บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการในบริษัทฯ

บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MDL

คาดออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 1 ปี 9 เดือน ดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม และ 3-4 เมษายน 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BB” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนครบกำหนดวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566 จำนวน 724.60 ล้านบาท และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้

ชุดที่ 1  หุ้นกู้มีประกัน อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 อัตราดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได ดังนี้

  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ร้อยละ 6.50 ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 ร้อยละ 7.25 ต่อปี

หลักประกัน คือ หุ้นสามัญของบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) (GRAND) จำนวนรวม 4,116,151,232 หุ้น รวมมูลค่าหลักประกัน ณ วันที่ 13 มีนาคม 2566 อยู่ที่ 905.55 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนหลักประกันต่อหุ้นกู้ อยู่ที่ 1.51 เท่า

ชุดที่ 2  หุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569 อัตราดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BB” และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ผู้ออกหุ้นกู้จะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไป ไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในวันที่ 10 พ.ค. 2566 สำหรับ “หุ้นกู้ของบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2562 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี พ.ศ.2566”

บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้

  • ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 อัตราดอกเบี้ย 6.80% ต่อปี
  • ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 อัตราดอกเบี้ย 6.95% ต่อปี

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2566  จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ “BB+” หุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน มูลค่าไม่เกิน 800 ล้านบาท