3 บิ๊กค้าทอง ชี้เทรนด์ราคา ส่องโอกาสลุ้นนิวไฮรอบใหม่

3 บิ๊กค้าทอง

เปิดปี 2566 มา ราคาทองคำโลกอยู่ที่ระดับ 1,824 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำเมื่อวันที่ 2 ม.ค. แต่มาถึงในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงไปแตะระดับ 2,009 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำนิวไฮของปี 2566 นี้

ส่วนทองแท่งในประเทศก็มีช่วงที่ราคาขึ้นไปสูงถึง 32,150 บาทต่อบาททองคำ ก่อนจะมีการย่อตัวลงมาในช่วงนี้ ส่วนการมองไปข้างหน้าด้วยปัจจัยต่าง ๆ ในโลกที่ค่อนข้างผันผวน ทิศทางราคาทองคำจะเป็นไปอย่างไร จะกลับเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ “ประชาชาติธุรกิจ” พาสำรวจความคิดเห็นและการวิเคราะห์ทิศทางราคาทองคำจาก 3 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ของประเทศไทย

ฮั่วเซงเฮง ชี้ 2 พันเหรียญมีลุ้น

เริ่มจาก “ธนรัชต์ พสวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรง จากเหตุการณ์ธนาคารล้มในสหรัฐ แต่พอหลังจากมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ทำให้ราคาทองคำมีการย่อตัวลงมา เนื่องจาก Dot Plot ที่คาดการณ์ดอกเบี้ยสิ้นปี 2566 ยังไม่มีการขยับลดลง ทำให้นักลงทุนบางส่วนมองว่าเฟดน่าจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ยลงในปีนี้ ทำให้เห็นราคาทองคำมีการย่อตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1,960 ดอลลาร์

“แต่ปัจจัยที่จะช่วยหนุนราคาทองคำ ก็เริ่มเห็นทยอยกลับมาอย่างดอลลาร์ ที่มีการอ่อนค่าลงในช่วงนี้ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามดูทิศทางของเฟดในอนาคตจะส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่ออย่างไร รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งในการประชุมเฟดครั้งถัดไป มีการคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งก็อาจทำให้ราคาทองคำไม่ได้ดีดตัวขึ้นสูง”

สำหรับในระยะสั้น “ฮั่วเซ่งเฮง” ให้แนวรับอยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์ หากย่อลงมาอีก แนวรับต่อไปที่ 1,944 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านที่ 1,980-1,990 ดอลลาร์ ขณะที่โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นแรงประเมินไว้ที่บริเวณ 2,000 ดอลลาร์ก่อน และรอดูทิศทางของเฟด

ธนรัชต์ พสวงศ์
ธนรัชต์ พสวงศ์

“แต่ถ้าหลังจากนี้ ดอลลาร์มีการอ่อนค่าลงอีก ราคาทองคำก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง สำหรับนักลงทุนหากราคาทองคำย่อลงมาในระดับ 1,900 ดอลลาร์ สามารถทยอยซื้อเก็บได้ เพราะในระยะยาวก็มีเรื่องของภาวะเศรษฐกิจถดถอย กับมุมมองของเฟดที่จะต้องปรับลดดอกเบี้ย หลังจากปรับขึ้นไปถึงจุดสุดแล้วที่จะหนุนทอง เพียงแต่ราคาตอนนี้น่าจะยังคงชะลอตัวและในช่วงที่ย่อตัวลงมา ก็เป็นโอกาสให้เข้าซื้อสะสมรอโอกาสได้” ซีอีโอฮั่วเซ่งเฮงกล่าว

Advertisment

YLG ปรับเป้าจุดพีกใหม่

ขณะที่ “พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำในเดือน มี.ค.ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดของปีที่ 2,009 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นมาเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ จากปัจจัยเรื่องแบงก์ล้มในสหรัฐ ทำให้ต้องปรับเป้าหมายจุดสูงสุดราคาทองคำปีนี้ จากเดิมต้นปีที่ประเมินไว้ที่ 2,000 ดอลลาร์ เป็น 2,075-2,200 ดอลลาร์ แต่อาจจะคาดการณ์ได้ค่อนข้างยากว่าราคาทองคำจะทำนิวไฮอีกในช่วงไหนของปี เนื่องจากต้องรอดูทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดระยะข้างหน้า

พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์

“ในช่วงระหว่างนี้คาดว่าราคาทองคำน่าจะยังคงไซด์เวย์ไปจนกว่าจะเห็นท่าทีของการดำเนินนโยบายของเฟดที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งหากไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ แต่หากมีการปรับตัวขึ้นราคาทองคำมีโอกาสย่อตัวลง โดยหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งที่ 0.25% ราคาทองคำน่าจะยังไซด์เวย์ โดยไม่ปรับขึ้นหรือร่วงลงแรง แต่หากเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลย ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงแน่นอน”

Advertisment

ซีอีโอวายแอลจี แนะนำว่า กลยุทธ์การลงทุนให้เน้นลงทุนระยะสั้น โดยแนะนำลงทุนเเบบเทรดรายวัน หรือรายสัปดาห์จะปลอดภัยกว่า ซึ่งหากราคาทองคำปรับลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดที่นักลงทุนควรทยอยซื้อสะสม ส่วนราคาทองคำในประเทศให้กรอบแนวรับบาทละ 29,350-29,100 บาท และแนวต้านบาทละ 33,800 บาท

แม่ทองสุก ฟันธงนิวไฮใหม่ Q3

ฟาก “นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก (MTS) กล่าวว่า โอกาสที่ราคาทองคำจะทำนิวไฮขึ้นไปอีกมีค่อนข้างสูง เนื่องจากประเด็นของวิกฤตธนาคารในสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเด็นที่คาดไม่ถึง และเป็นปัจจัยเฉพาะที่ส่งผลทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นมาทดสอบที่ 2,000 ดอลลาร์ ฉะนั้น เป้าหมายของราคาทองคำในปีนี้ ขั้นต่ำมองไว้ที่ 2,070-2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีโอกาสทะลุทำนิวไฮใหม่ที่ 2,100 ดอลลาร์

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ

ส่วนราคาทองคำในประเทศก็ปรับขึ้นมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ จากเหตุการณ์ปัญหาวิกฤตธนาคารต่างประเทศเช่นกัน โดยราคาทองไทยขึ้นมาทดสอบระดับสูงสุดเดิมที่ 32,200 บาท ดังนั้น โอกาสที่ทองคำไทยจะขึ้นไปแตะ 33,500 บาท ก็น่าจะเป็นไปได้สูง ซึ่งนิวไฮที่คาดว่าจะได้เห็นน่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณไตรมาส 3 เพราะว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย

“ปีนี้ทั้งปีคาดว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยไม่เกิน 2 ครั้ง ดังนั้น ในการประชุมอีกหลายครั้งที่เหลือในปีนี้น่าจะมีบางครั้งที่ไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งการที่เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้น แนะนำนักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำในระยะสั้น 1 เดือนข้างหน้าประเมินแนวต้าน 2,010 ดอลลาร์ และแนวรับ 1,940 ดอลลาร์” ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มแม่ทองสุกกล่าวราคาทอง