หุ้นญี่ปุ่นบานสะพรั่ง อานิสงส์เงินเยนอ่อนค่าในรอบ 16 ปี

ญี่ปุ่น
โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

เงินเยนที่อ่อนค่าในรอบ 16 ปี

การที่เงินเย็นอ่อนค่าอ่อนค่าในรอบ 16 ปี ในเวลานี้ บวกกับอากาศที่ร้อนระอุช่วงหน้าร้อนของเมืองไทย เชื่อว่าหลายคนคงนึกอยากบินไปญี่ปุ่นกันขึ้นมาเลยใช่ไหมครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับและภรรยาอีกครั้งเพื่อชื่นชมความงดงามของดอกซากุระที่กำลังเบ่งบานไปทั่วทั้งประเทศ หลังปิดประเทศมายาวนานนับจากวิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาด ในเวลานั้นเงินเยนก็ว่าอ่อนค่ามากแล้วครับ แต่สู้เวลานี้ไม่ได้จริง ๆ

ในการเดินทางครั้งนี้ได้เปิดมุมมองเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไป สิ่งที่ผมได้พบเห็นในวันนี้คือ นักท่องเที่ยวพาเหรดกลับเข้าประเทศญี่ปุ่นไม่ขาดสายอีกครั้ง ส่วนหนึ่งก็มาจากอานิสงส์ของเงินเยนอ่อนค่านี่ละครับ

แต่ที่ผมสังเกตเห็นตามถนนหนทางเมืองใหญ่ ๆ และเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ ยังมีนักท่องเที่ยวจีนยังเข้ามาไม่มากนัก อาจจะเป็นเพราะจีนเพิ่งเปิดประเทศเมื่อต้นปีนี้ แต่ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีชั่นครับ คาดว่าน่าจะเป็นฤกษ์ดีที่จะเห็นชาวจีนออกมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น ดินแดนที่ไม่ได้ไกลกันมากนัก ซึ่งในอดีตก่อนเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเคยครองแชมป์มาเที่ยวญี่ปุ่นมากที่สุดจำนวนกว่า 9.5 ล้านคนต่อปี

หากดูข้อมูลหลังญี่ปุ่นเปิดประเทศเมื่อปลายปี 2565 พร้อมกับการเดินทางที่ไม่ต้องตรวจโควิด และฟรีวีซ่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้เป็นช่วงเวลา 3 เดือน ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดทุกเดือน ยอดรวมกันราว 2 ล้านคนได้ ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและเกาหลีอันดับต้น ๆ ตามด้วยฝรั่งจากทั่วโลกส่วนจีนยังอยู่ช่วงปิดประเทศในเวลานั้น

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ระบุไว้ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ ปี 2565 มีสัดส่วนเพียง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด ด้านรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 3 เดือนปีที่แล้ว อยู่ที่ราว 595,200 ล้านเยน คิดเป็นสัดส่วน 50% ของช่วงก่อนโควิด-19 และยังพบว่า นักท่องเที่ยวแต่ละคนมีการใช้จ่ายมากขึ้นราว 20% โดยยอดใช้จ่ายของแต่ละคนเฉลี่ย 200,000 เยน สะท้อนให้เห็นว่า แม้คนยังเข้าประเทศน้อย แต่นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายกันเพิ่มขึ้น

ท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นตัว

ผมเชื่อว่า วันนี้ภาคท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้แล้ว ทั้งจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทุกเดือน รวมถึงยอดจองที่นั่งของสายการบินใหญ่ ๆ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน และไม่ช้าหรือเร็ว ภายในปีนี้หากนักท่องเที่ยวจีน เดินทางกลับมาเที่ยวญี่ปุ่นกันอีกครั้ง เราจะได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอย่าง ยอดจองที่นั่งของสายการบินใหญ่ ๆ เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยภาพรวม เศรษฐกิจญี่ปุ่นน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ขณะที่ในช่วงก่อนโควิด-19 ปี 2562 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมีมูลค่าเป็น 7.5% ของ GDP ญี่ปุ่น

สำนักงานสถิติแห่งชาติญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ว่า ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า 3.3% ที่ 60,000 คน จาก 1,800,000 คน เป็น 1,740,000 คน นับเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 20 และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 2.6% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดจำนวน 6,8380,000 คน ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า 0.1% จาก 2.7% เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ผ่อนคลายลง ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น และประชาชนที่เริ่มหางานใหม่มีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากการคาดหวังที่จะได้ค่าจ้างที่สูงขึ้นเพื่อรับรองภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน

ในช่วงเวลานี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าไปลงทุนหรือเริ่มกลับเข้าไปในตลาดนะครับ ผมได้รีวิวตลาดหุ้นทั่วโลกหลังปัญหาภาคธนาคารในสหรัฐ คลี่คลายลงเร็ว บอกได้เลยว่าช่วงนี้เป็นโอกาสลงทุนที่ดี เนื่องจากความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นกลับมา สะท้อนผ่านตลาดหุ้นทั่วโลกที่รีบาวด์ในช่วงต้นเดือนเมษายน นักลงทุนคาดหวังกันไปล่วงหน้าแล้วว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ใกล้ขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุดแล้ว หุ้นตัวใหญ่ในสหรัฐ ช่วยดันให้บรรยากาศในตลาดไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดัชนีตลาดหุ้นต่าง ๆ ดีดตัวขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านมา ความกังวลภาคธนาคารเปราะบางดูเหมือนจะหมดไปแล้ว หากสหรัฐ ยังรักษาแนวโน้มนี้ต่อไปได้ นักลงทุนทั่วโลกก็กลับมาได้ไม่ยาก

โมเมนตัมรอบนี้ ยิ่งส่งให้แนวโน้มตลาดฝั่งเอเชียสดใสยิ่งขึ้นกว่า ผมมองว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นนี่ล่ะครับที่เป็นขุมทรัพย์น่าลงทุนที่เหมาะให้นักลงทุนกระจายลงทุน

ญี่ปุ่นได้อานิสงส์จาก “เงินเยนอ่อนค่า” ส่งผลดีต่อภาคการส่งออก และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวหมุดหมายของชาวโลกที่หลั่งไหลเข้าท่องเที่ยวในดินแดนซามูไรแห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นไฮซีชั่นของเทศกาลชมดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิที่เริ่มในเดือนเมษายนนี้

แต่ใด ๆ แล้ว คือ ความไม่แน่นอนกับตลาดหุ้นเป็นของคู่กัน เราสามารถเรียนรู้ได้จากภาพรวม และทำความเข้าใจกับวัฏจักรของตลาดหุ้น เศรษฐกิจ เงินเฟ้อหรือกลไกตลาดเป็นอย่างไร ซึ่งในภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตระดับต่ำ แต่หากมองระดับรายภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจ ก็ยังพบว่ายังมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจลงทุน คือ ตัวบริษัท หรือหุ้นตัวนั้นมากกว่า แม้ว่าจะไม่สามารถบอกได้ว่าปัจจุบันคือจุดต่ำสุดหรือไม่ แต่ก็สามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า ข่าวร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกลับไม่สามารถกดดันราคาหุ้นได้มากนัก หากเลือกหุ้นคุณภาพดี มีอนาคต ไม่นานราคาหุ้นก็จะปรับตัวขึ้นมาอีกครั้ง

ส่องหุ้นหุ้นญี่ปุ่นรายตัว อนาคตธุรกิจฟื้นสู่ช่วงก่อนโควิด

ผมเรียกตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นขุมทรัพย์ เพราะว่าเป็นตลาดที่รวบรวมหุ้นดีราคาถูกเอาไว้มากกว่าที่คุณจะจินตนาการ และกิจการร้านค้าในญี่ปุ่นมีอายุอานามเกินหลักสิบหลักร้อยปีหลายรายเชียวครับ หากคุณเคยไปเดินตามแหล่งท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ก็จะพบร้านค้าเก่าแก่มากมาย เชื่อหรือไม่ครับหลายร้านมีอายุเกินกว่าร้อยปีแล้ว เช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่น หลายบริษัทก็มีอายุยาวนานเกินร้อยปีเช่นกันครับ ไม่แปลกที่สินค้าญี่ปุ่นจะได้รับความนิยม เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพที่อยู่ยั่งยืนยงมาได้นับร้อยปีเป็นเครื่องการันตีอย่างดีทีเดียว

สินค้าที่ติดป้าย Made in Japan จะเป็นชิ้นเนื้อหอมที่ใคร ๆ ก็อยากได้ แถมบางทีราคาสูงกว่าสินค้าชนิดเดียวกันที่ผลิจจากประเทศอื่น ๆ อีกด้วย เพราะใจลึก ๆ แล้ว หลายคนเชื่อในคุณภาพวัตถุที่ใช้ในการผลิตมีคุณภาพน่าเชื่อถือ มีความคุ้มค่าภายใต้มาตรฐานแบรนด์ของญี่ปุ่น แม้กระทั่งธุรกิจขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอีที่อาจจะเติบโตช้า ๆ แต่อยู่กันได้ยาว ๆ ผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่มั่นคงและแข็งแกร่ง

ทุกครั้งที่เดินทางไปญี่ปุ่น สินค้าที่คุณจะต้องคว้ากลับมาจากญี่ปุ่นมีอะไรกันบ้างครับ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า รองเท้า ของเล่นของสะสม เบื้องหลังของสินค้าเหล่านี้คือบริษัทจดทะเบียนคุณภาพ ซึ่งผมขอนำเสนอจากทริปล่าสุดที่ผมเพิ่งกลับมาแล้วกันนะครับ เมื่อนำข้อมูลของสินค้ายอดนิยมของคนไทยมาพิจารณาตามหลักการคัดหุ้นคุณค่าตามหลักการของ Jitta.com ที่นักลงทุนสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้แบบฟรี ๆ หุ้นเจ้าของสินค้ายอดนิยมเหล่านี้จะมี Ranking เป็นอันดับที่เท่าไรกันบ้าง

ขอเริ่มกันที่ร้านค้าชื่อดังของญี่ปุ่นที่ขายทุกสิ่งสไตล์ญี่ปุ่นในราคาย่อมเยา อย่างดองกิ หรือ Don Quijote ที่ไปญี่ปุ่นครั้งใดเราต้องเข้าไปใช้บริการทุกครั้ง ไม่ว่าจะซื้อของใช้ส่วนตัวหรือซื้อของฝาก โด่งดังในหมู่คนไทยถึงขนาดต้องมาเปิดสาขาในเมืองไทยและยังขยายสาขาแผ่อาณาจักรร้านค้าไปทั่วโลกแล้วเช่นเดียวกันครับ หุ้นของบริษัท Pan Pacific International Holdings Corporation ที่เป็นเจ้าของร้านดองกิ จึงถือเป็นหุ้นชั้นดีราคาถูกที่น่าลงทุน หากดูการจัดอันดับตามหลักการหุ้นเน้นคุณค่าตามหลักการของจิตตะแล้ว เป็นหุ้นอันดับที่ 90 จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มีอยู่กว่า 3,503 บริษัททีเดียวครับ

สินค้า Top Hit อย่างรองเท้า Onitsuka แบรนด์ที่ทั่วโลกรู้จักกันแพร่หลายและนิยมซื้อ หากเป็นสายสปอร์ตก็ยังมีแบรนด์รองเท้า Asics ซึ่งสินค้าทั้ง 2 แบรนด์ดังกล่าวมีบริษัท Asics Corp เป็นเจ้าของนั่นเอง และหุ้นของบริษัท Asics Corp ก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าสนใจลงทุนไม่น้อยครับ มี Ranking เป็นอันดับที่ 994 จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มีอยู่กว่า 3,503 บริษัททีเดียวครับ

และแน่นอน จุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวแทบทุกเจนต้องไปถ่ายรูปสักครั้งหนึ่งคือ หุ่นยนต์กันดั้ม (Gumdam) ตัวโตยืนเด่นเป็นสง่า ที่โอไดบะ สัญลักษณ์ของบริษัท BANDAI NAMCO Holdings Inc. ก็ต้องมา เพราะเป็นผู้ผลิตของเล่น สร้างเกมและการ์ตูนอะนิเมะ และรายการบันเทิงต่าง ๆ ธุรกิจขยายไปหลากหลายมากขึ้นจนถึงการจัดนิทรรศกาลต่าง ๆ ด้วย และแน่นอน และอีกหลาย ๆ สินค้าที่ที่ครองใจคนทั่วโลกและเป็นอีกแหล่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต้องแวะเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วย หุ้นตัวนี้ครอบครอง IP หรือสินทรัพย์ทางปัญญาหลากหลายแบรนด์กว่า 300 IP ในการผลิตของเล่นทีเดียวที่ยังครองใจ Gen อัลฟ่าเหมือนกัน จัดเป็นหุ้นดีราคาถูกอันดับที่ 883 ที่ได้ Ranking โดย Jitta.com

อีกจุดเช็กอินที่ห้ามพลาดเมื่อไปโอซากาคือป้ายไฟกูลิโกะนั่นเอง กูลิโกะ ที่ชาวโลกเติบโตมากับขนมของกินยี่ห้อนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงโตก็ไม่เลิกง่าย ๆ แถมส่งต่อรุ่นต่อรุ่นจนถึงวันนี้เป็น Gen อัลฟ่าแล้วก็ยังติดลมบนของโลกอยู่ ซึ่งเจ้าของแบรนด์ กูลิโกะ นั่นคือบริษัท Ezaki Glico Co., Ltd. ที่ได้ Ranking อันดับ 3,056 ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นครับ

หนึ่งไอเท็มที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นคือ ถุงยางอนามัยที่ได้ชื่อว่าบางที่สุดในโลก อย่าง Sagami 001 ของบริษัท Sagami Rubber Industries Co., Ltd. ได้ Ranking อันดับที่ 2022 หรือแบรนด์ Okamoto ของบริษัท Okamoto Industries, Inc. ได้ Ranking อันดับที่ 2233

ผมขอยกตัวอย่างหุ้นเหล่านี้ถือเป็นของฝากจากการท่องเที่ยวญี่ปุ่นของผมในครั้งนี้ไว้ประมาณนี้นะครับ จริง ๆ แล้วตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีหุ้นเด่นในสายตาชาวโลกให้เลือกอีกมากเลยครับ เพราะแม้แต่ปู่ Warren Buffett นักลงทุนระดับในโลกยังหลงเสน่ห์ของหุ้นญี่ปุ่น ที่ผ่านมาปู่ลงทุนใน 5 หุ้นญี่ปุ่นมาหลายปีแล้ว ประกอบด้วย ITOCHU Corporation บริษัทนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั่วโลก, Marubeni Corporation บริษัทที่ดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก, Mitsubishi Corporation บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดติด Top 20 ของตลาดหุ้นญี่ปุ่น, Mitsui & Co.บริษัทดำเนินธุรกิจเทรดดิ้งทั่วโลก และ Sumitomo Corporation ทำธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมทั่วประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลก

และล่าสุดปู่ได้ประกาศลงทุนเพิ่ม เพราะมองว่า 5 หุ้นญี่ปุ่นนี้จะมีอนาคตที่สดใสและทำเงินให้กับเขาได้อีกมหาศาล แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นญี่ปุ่นมักโดนมองในด้านลบมาโดยตลอดแถมนักวิเคราะห์ยังมองว่าญี่ปุ่นไม่โต แต่ปู่กลับให้ความสนใจและตื่นเต้นในศักยภาพการเติบโตของหุ้นญี่ปุ่นทั้ง 5 ดังนั้นการเข้าลงทุนของ Buffett ในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้นักลงทุนเริ่มชายตามามองหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้น

หุ้นดี ๆ เหล่านี้คุณสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองได้ฟรีใน Jitta.com นะครับ หรือหากใครสนใจอยากลงทุนใน “ตลาดหุ้นญี่ปุ่น” แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ก็สามารถซื้อผ่านกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งทางลัดที่จะทำให้คุณเป็นเจ้าของขุมสมบัติลึกลับนี้ได้นะครับ

ผมเชื่อมั่นว่า หลังจากทั่วโลกได้ก้าวผ่านมรสุมโควิด-19 กันไปแล้ว ปีนี้ถือเป็นปีที่บริษัทต่าง ๆ จะตั้งหลักฟื้นคืนชีพกลับมาได้ดีกว่าปี 2565 และคุณอาจจะได้เห็นบางบริษัทที่ทำผลประกอบการในปีนี้กลับมาทะลุช่วงก่อนโควิด-19 ก็เป็นไปได้ ถ้ามองไปข้างหน้าธุรกิจมีการเติบโต ขณะที่ราคาหุ้นอยู่ระดับต่ำหรือยังปรับตัวขึ้นไปไม่มากเทียบกับมูลค่าของหุ้นนั้น ๆ ที่เพิ่มขึ้น ผมขอย้ำว่า นี่คือโอกาสทองของการลงทุนหุ้นดี ๆ ราคาซื้อหาได้ ถ้าจัดสรรเงินกระจายลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น พอร์ตของคุณ ก็จะเติบโตไปกับบริษัทเหล่านี้ครับ ขอเพียงคุณทำการบ้านให้รอบคอบพอร์ตของคุณก็จะมั่งคั่งมั่งมีได้ไม่ยากเลยครับ