หุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ 1,541.38 จุด ลดลง 19.97 จุด กลุ่มโรงไฟฟ้าดิ่งยกแผงหลัง “ก้าวไกล” ชนะเลือกตั้ง บล.กสิกรไทย ชี้ SET Index ซึมช่วงสั้น ตั้งรัฐบาลใหม่เป็นไปด้วยความยากลำบากหลังเข้าสู่สภาวะ Deadlock “โรงไฟฟ้า-โรงกลั่น-ปั๊มน้ำมัน” ถูกกดดันจาก policy risk ดัชนีเสี่ยงทดสอบโลว์เดิม 1,500 จุด
วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) วันนี้ปิดที่ 1,541.38 จุด ลดลง 19.97 จุด หรือ -1.28% จากดัชนีวันก่อนหน้า โดยลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,536.82 จุด หรือลดลง 24.53 จุด
โดย 5 อันดับที่มีมูลซื้อขายสูงสุดคือ 1.บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) มูลค่า 3,641 ล้านบาท ราคาหุ้น -8.57% 2.บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) มูลค่า 2,952 ล้านบาท ราคาหุ้น -2.63% 3. บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) มูลค่า 2,880 ล้านบาท ราคาหุ้น -4.52%
4.บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มูลค่า 2,814 ล้านบาท ราคาหุ้น +1.11% และ 5.บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มูลค่า 2,762 ล้านบาท ราคาหุ้น +0%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าราคาดิ่งยกแผง ประกอบด้วย GUNKUL -10.47%, GULF -8.57%, BGRIM -6.33%, GPSC -5.98%, ECGO -3.95%, RATCH -2.60%, CKP -2.62%, EA -0.74%, TPIPP -0.61%
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประเมินภาพ SET Index ในช่วงสั้นคงเป็นภาพซึม ๆ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นไปด้วยความยากลำบาก หลังจากเข้าสู่สภาวะ Deadlock
นั่นคือฝ่ายเสรีจับมือกันได้เกิน 251 คะแนน แต่ไม่ถึง 376 คะแนน เพราะฉะนั้นต้องติดตามต่อไปว่าจะมีพรรคการเมืองไหนจับมือร่วมตั้งรัฐบาลอีกหรือไม่ จะเป็น ส.ว.ย้ายมา หรือพรรคภูมิใจไทย หรือเป็นการจัดตั้งเป็นรัฐบาลผสม ดังนั้นพอยังไม่มีความชัดเจน นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยจึงตีความไปในเชิงลบก่อน
โดยเห็นแรงขายหลัก ๆ ในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่ามีโอกาสที่พรรคการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาลได้รอบนี้จะดำเนินนโยบายในลักษณะลดค่าไฟและลดค่าครองชีพ และเพิ่มเงินในกระเป๋า ซึ่งกดดันกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงกลั่น และปั๊มน้ำมัน เพราะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่มีโอกาสถูกกดดันจาก policy risk
สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของ SET Index ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค. 2566) น่าจะเป็นภาวะซึม ช่วงนี้อาจจะมีโอกาสเห็นดัชนีลงไปทดสอบโลว์เดิมที่บริเวณ 1,500 จุด ถึงตรงนั้นต้องมาพิจารณาอีกทีว่าฟอร์มรัฐบาลได้แบบไหน
กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้รอดู (wait and see) และรอไปซื้อหุ้นบริเวณ 1,500 จุด
นายณัชพล แพรสีเจริญ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แรงขายในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าสืบเนื่องจากโดนแรงกดดันจากผลการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียง ส.ส.มากสุด และมีโอกาสจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อบริหารประเทศ
โดยพรรคก้าวไกลมีนโยบายทั้งการลดค่า Ft และยกเลิกค่าความพร้อมจ่าย จึงโดนกดดันจากเซนติเมนต์เชิงการเมือง โดยเมื่อพรรคก้าวไกลได้อำนาจก็อาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบในการทำธุรกิจของกลุ่มโรงไฟฟ้า จึงทำให้ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าถูกกดดันลงมา
แนะนำนักลงทุนที่ยังกลุ่มโรงไฟฟ้า ไม่ต้องรีบเข้าลงทุน รอให้มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ก่อน และความชัดเจนเรื่องของนโยบายต่าง ๆ ค่อยพิจารณาเข้าลงทุนหลังจากนั้นได้ ซึ่งยังไม่ช้าเกินไป ส่วนนักลงทุนที่มีสถานะถืออยู่แล้ว อาจจะใช้เทคนิคประกอบด้วย เพราะว่าในมุมของปัจจัยพื้นฐานยังดีอยู่ แต่ในระยะสั้นอาจจะไม่ต้องรีบถัว