ไทยพาณิชย์เจาะประกันภูธร ปั๊มเบี้ย 3.5 พันล้าน สนใจ M&A

นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย

ไทยพาณิชย์ โพรเทค บริษัทลูกธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดแผนปี’66 เป้ารายได้โต 2 เท่า แตะ 1.7 พันล้านบาท เบี้ยรับรวมแตะ 3.5 พันล้านบาท รุกขยายตลาดประกันกลุ่ม-ลูกค้าองค์กร ลุยเจาะประกันภูมิภาคตามโรดแมปนโยบายบริษัทแม่ ดึงสาขาแบงก์รีโนเวตใหม่เปิดศูนย์กลางประจำภาค รับสมัครงานปีนี้ 2,000 อัตรา แย้มสนใจ M&A

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด (SCB PROTECT) เปิดเผยว่า

ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโตเป็น 2 เท่าของปี 2565 หรือมีมูลค่า 1,600-1,700 ล้านบาท โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม จำนวน 3,400-3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันก่อน (YOY) ที่มีเบี้ยรับรวม 1,700 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่มีกำไร เนื่องจากช่วงเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือน ก.ค.2563-ปี 2564 ติดขัดจากสถานการณ์การระบาดโควิด

โดยในช่วง 4-5 เดือนแรกของปีนี้ เบี้ยประกันมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 200% ต่อเดือน ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยส่วนใหญ่กว่า 70% เป็นเบี้ยประกันชีวิต อาทิ ประกันออมทรัพย์ ประกันตลอดชีพ เป็นต้น

โดยตอนนี้เป็นนายหน้าขายสินค้าให้กับบริษัทเอฟดับบลิวดีประกันชีวิตเป็นหลัก ส่วนที่เหลืออีก 30% มาจากเบี้ยประกันวินาศภัย อาทิ ประกันรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันการเดินทาง และประกันภัยบ้าน โดยขายสินค้าให้กับ 14-15 บริษัทประกันวินาศภัย

ทั้งนี้ช่องทางขายหลักของบริษัท ยังคงมาจากช่องทางขายผ่านโทรศัพท์ (telesales) สัดส่วน 80% ตามมาด้วยช่องทางแบบเจอหน้า (face to face) สัดส่วน 17-18% และที่เหลืออีก 2% มาจากช่องทางขายผ่านดิจิทัลบนแอปพลิเคชั่น SCB EASY

โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้ารวม 2 แสนราย ลูกค้าประกันชีวิตมีค่าเบี้ยเฉลี่ย 14,000-15,000 บาทต่อราย ส่วนลูกค้าประกันวินาศภัยมีค่าเบี้ยเฉลี่ย 6,000-7,000 บาทต่อราย

ทั้งนี้ยังมีโอกาสอีกมากจากฐานลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ที่ใช้งานแอปพลิเคชั่น SCB EASY ซึ่งมีอยู่กว่า 17 ล้านราย แอกทีฟมากกว่า 13-14 ล้านราย โดยพบว่าปัจจุบันมีการเข้ามาค้นหาข้อมูลเบี้ยและความคุ้มครองบนแอปฯกว่าเดือนละ 3-4 แสนราย

สำหรับแผนการขยายตลาดปีนี้ นางสาวปรมาศิร กล่าวว่า จะรุกขยายตลาดประกันกลุ่ม ประกันลูกค้าองค์กร ประกัน fleet รถยนต์ ประกันโรงงาน ประกันโรงแรมและประกันภัยทรัพย์สิน

โดยปีนี้ได้ฟอร์มทีมคอร์ปอเรตอินชัวร์รันซ์ขึ้นมาเพื่อมาดูแลลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ มีสโลแกน “ไม่ถูกกว่าไม่ต้องใช้เรา” โดยบริษัทจะขอโอกาสเข้าไปประกวดราคาแข่ง โดยใช้เครือข่ายบริษัทประกันที่ทำงานด้วยกันเป็นการนำร่อง

นอกจากนี้เดินหน้านโยบายขยายเครือข่ายสู่ตลาดภูมิภาค โดยมีแผนจะทยอยเปิดศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2566 ได้เปิดไปแล้วในภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เป็นแห่งแรก และในไตรมาส 3/2566 จะเปิดตัวในภาคอีสาน จ.ขอนแก่น และกำลังพิจารณาเปิดต่อที่ภาคใต้หรือภาคตะวันออก ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้ารับสมัครทีมงานปีนี้กว่า 2,000 อัตรา คาดว่าปีนี้จะมีเบี้ยประกันจากตลาดภูมิภาคราว 10-20% และภายใน 3 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 60%

โดนงานที่รับสมัครมีทั้งเทเลเซลล์และแอดมิน (QC) โดนจุดเด่นของงานงานเทเลเซลล์คือ เป็นสัญญาจ้างพนักงาน มีเงินเดือนประจำ 13,000 บาทต่อเดือน เบี้ยขยัน 2,500 บาท ค่าคอมมิชชั่น 10,000-20,000 บาท หรือตามผลงาน และรางวัลพิเศษตามแคมเปญ และสวัสดิการต่างๆ นอกจากนี้บริษัทยังส่งเข้าอบรมและส่งสอบใบอนุญาตโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยรับทั้งผู้ที่มีประสบการณ์งานขายประกันและนักศึกษาจบใหม่

“เราก็มีแผนทำ M&A ด้วยเหมือนกัน แต่อาจไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้ เพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงขยายธุรกิจแบบ organic ไปก่อน และนโยบายของบริษัทแม่ (ธนาคารไทยพาณิชย์) และ บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) ให้เรามุ่งเน้นสร้างงานตลาดต่างจังหวัดก่อนด้วย แต่วันหนึ่งถ้ามีโอกาส M&A เข้ามาคงพิจารณาแน่นอน” นางสาวปรมาศิริ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังได้ตั้งงบฯลงทุนต่อปีไว้ประมาณ 70-80 ล้านบาท โดยการเปิดศูนย์กลางการดำเนินงานประจำภูมิภาค จะใช้ทรัพยากรสาขาแบงก์ของ SCB ที่ไม่ได้ใช้งานมารีโนเวตใหม่ ใช้งบประมาณลงทุนต่อสาขาราว 10 ล้านบาท

“แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในปีนี้ เชื่อว่าน่าจะโตดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน ส่งผลให้อัตราการถือครองกรมธรรม์จะเติบโตขึ้นไปตามด้วย ซึ่งเป็นไปตามที่เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น หลังผ่านพ้นช่วงโควิดไปแล้ว ประกอบกับคนรุ่นใหม่หันมาสนใจทำประกันมากขึ้นอีกด้วย”