ไทยพัฒน์ เปิดโผ 15 หุ้นใหม่ติดทำเนียบ ESG ปี 66 เปิดชื่อหุ้น ESG Turnaround เป็นปีแรก  

15 หุ้นใหม่ติดทำเนียบ ESG

สถาบันไทยพัฒน์เปิด 15 หุ้นใหม่ติดทำเนียบ ESG 100 ปี 2566 พร้อมเปิดตัวหุ้นกลุ่ม ESG Turnaround ดันผลประกอบการพลิกฟื้น เป็นปีแรก

วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 สถาบันไทยพัฒน์ โดยหน่วยงาน ESG Rating ผู้พัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย และเป็นผู้จัดทำข้อมูลกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ได้จัดทำรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2566  จากการคัดเลือก 888 บริษัท/กองทุน/ทรัสต์เพื่อการลงทุน โดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) จาก 6 แหล่งข้อมูล กว่า 16,445 จุดข้อมูล ทำการประเมิน

โดยหลักทรัพย์ที่ติดกลุ่ม ESG Emerging ปี 2566 ซึ่งได้เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 เป็นครั้งแรก มีจำนวน 15 หลักทรัพย์ ได้แก่  AAI  AWC  BRR  BVG  DEXON  ITC  PLANB  POLY  PRI  PRIME  SICT  SISB  TLI  WHA  WHAIR

และปีนี้เป็นปีแรก สำหรับการคัดเลือกและจัดทำรายชื่อหลักทรัพย์ที่มีผลประกอบการพลิกฟื้นกลุ่ม ESG Turnaround ที่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในช่วงเวลาที่หลักทรัพย์มีการฟื้นตัว และ มีปัจจัย ESG สนับสนุน มีจำนวน 10 หลักทรัพย์ ได้แก่ AOT  BA  BAFS  CENTEL  ERW  MINT  SEAFCO  SHR  SPA  THRE

ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธาน สถาบันไทยพัฒน์ กล่าวว่า การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่น่าลงทุนกลุ่ม ESG Emerging ในปีนี้ พิจารณาจากข้อมูลการดำเนินงานที่สะท้อนปัจจัยด้าน ESG ตามที่บริษัทเปิดเผยต่อสาธารณะ และผ่านเกณฑ์เบื้องต้นลักษณะเดียวกับ ESG100 ของสถาบันไทยพัฒน์ ตามหลัก CORE Framework เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่ผู้ลงทุน

และสำหรับกลุ่ม ESG Turnaround นับเป็นปีแรกในการจัดทำรายชื่อบริษัทที่มี ESG ซึ่งได้ตามเกณฑ์ในรอบปีการประเมิน แต่ยังมีผลประกอบการติดลบหรือต่ำกว่าตลาด แต่มีสัญญาณการพลิกฟื้นและมีโอกาสในการไต่ระดับขึ้น ของราคาหลักทรัพย์จากการฟื้นตัวของตลาด และศักยภาพในธุรกิจแกนหลัก (Core Business) ของกิจการที่มี ESG เป็นปัจจัยสนับสนุน

นักลงทุนที่สนใจ สามารถเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ที่คัดเลือกจากยูนิเวิร์สของกลุ่ม ESG Emerging ปี พ.ศ.2563-2566 จำนวน 35 หลักทรัพย์ ในรูปแบบกองทุนส่วนบุคคล Thaipat ESG Emerging Private Fund ได้ ซึ่งเป็นการลงทุนในแบบ Passive Strategy ที่ให้น้ำหนักการลงทุนในหลักทรัพย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก (Small-Mid Cap) เท่าเทียมกับหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ (Large Cap)

โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงในช่วงราคาที่กว้างของหลักทรัพย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก และการปรับสัดส่วนการลงทุน (Rebalance) ทุก 3 เดือน เพื่อการสร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิงพื้นฐาน บริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด

สำหรับข้อมูลหลักทรัพย์ในกลุ่ม ESG100 ที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้ จะนำไปใช้ในการปรับหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของ Thaipat ESG Index ประจำปี เพื่อใช้เป็นดัชนีเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุน

รวมถึงใช้เป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับการลงทุนแก่บริษัทจัดการลงทุนที่มีการให้บริการผลิตภัณฑ์การลงทุนในธีม ESG โดยผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.spglobal.com/spdji/en/custom-index-calculations/thaipat-institute/all

ทั้งนี้ สำหรับรายชื่อหลักทรัพย์กลุ่ม ESG100 ที่ได้รับคัดเลือกตั้งแต่ปี พ.ศ.2558-2565 สถาบันไทยพัฒน์ได้ทำการเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ https://thaipat.esgrating.com