บลจ.ทิสโก้จับจังหวะออกกองทุนทริกเกอร์หุ้นเวียดนาม 19-21 มิ.ย.นี้

กองทุนหุ้น

บลจ.ทิสโก้จับจังหวะเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ เวียดนาม อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8M#1 คาดเศรษฐกิจโต 7% กำไร บจ.พุ่ง ราคาหุ้นเริ่มฟื้น มั่นใจบริหารถึงเป้าหมายในระยะเวลา ภายใน 8 เดือน มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท เสนอขายครั้งแรก 19-21 มิถุนายน 2566

วันที่ 19 มิถุนายน 2566 นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงต้นปีตลาดหุ้นเวียดนามปรับลงมาก เพราะความกังวลเรื่องภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ปัจจุบันดัชนีหุ้นเวียดนามเริ่มฟื้นตัว เพราะปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี เห็นได้จากธนาคารพาณิชย์เริ่มกลับมาปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และตัวเลขอนุมัติโครงการก่อสร้างใหม่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น ซึ่ง บลจ.ทิสโก้มั่นใจว่าหลังจากนี้ตลาดหุ้นเวียดนามจะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีปัจจัยบวกทั้งการออกนโยบายสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจจากภาครัฐ การบริโภคในประเทศฟื้น และกำไรบริษัทจดทะเบียนยังโตหนุนให้นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นเวียดนามอีกครั้ง

จากปัจจัยบวกดังกล่าว บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ เวียดนาม อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8M#1 (TVNT8M1) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) มีนโยบายลงทุนใน VanEck Vietnam ETF ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MVIS Vietnam ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท/หน่วย ภายในระยะเวลา 8 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 19-21 มิถุนายน 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท

“บลจ.ทิสโก้มั่นใจว่าจะบริหารกองทุน TVNT8M1 ได้ถึงเป้าหมายตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะตลาดหุ้นเวียดนามมีปัจจัยหนุนอยู่มาก ได้แก่ 1.รัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลายมาตรการ เช่น การลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะมากถึง 66 ล้านล้านด่องต่อเดือน ผ่อนคลายการควบคุมตลาดตราสารหนี้ เตรียมเพิ่มระยะเวลา VISA ท่องเที่ยว ประกอบกับเดินหน้านโยบายอัตราดอกเบี้ยขาลงหลังอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเพียง 2.43% ซึ่ง Bloomberg และ Mirae Asset Securities คาดว่าในปี 2567 เศรษฐกิจเวียดนามจะโตสูงถึง 7% 2.การส่งออกโต บริโภคในประเทศฟื้น ส่วนหนึ่งเพราะได้รับอานิสงส์จากการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เหลือ 8% ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ต่างย้ายฐานการผลิตมายังประเทศเวียดนาม และ 3.ราคาหุ้นรับรู้ปัจจัยลบไปมากและซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (Forward P/E) อยู่ที่ 11.2 เท่า จากค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ 14.19 เท่า สวนทางกับคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนที่ Lumen คาดว่าปี 2567 จะเติบในระดับ 2 หลัก หนุนให้ปริมาณการซื้อขายเริ่มกลับมาฟื้นตัว” นายสาห์รัชกล่าว

ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงระยะเวลา 8 เดือนได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก การกำหนดเป้าหมาย 10.80 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน หากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งเป้าหมายเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี) ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน