ดีเอสไอ แจ้งจับ “ศรัทธา-ยศบวร” คดี STARK ตำรวจสากลล่าตัว “ชนินทร์”

DSI STARK แจ้งจับ จับกุมผู้ต้องหา

ดีเอสไอ แจ้งจับ “ศรัทธา-ยศบวร” ผู้ต้องหาคดี STARK ด้าน “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” ขอเลื่อนนัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหา “อ้างป่วย” พร้อมประสานอินเตอร์โพลล่าตัว “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” ขอความร่วมมือ “กรมการกงสุล” ยกเลิกหนังสือเดินทาง ส่งหนังสือถึงสำนักงานที่ดินขออายัดทรัพย์แล้ว เร่งตรวจสอบธุรกรรมการเงิน-สอบปากคำพยานบุคคล ด้าน “อธิบดี DSI” กำชับเร่งรัดทำคดีนี้โดยเร็ว

วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ว่า หลังจาก 1 เดือน ที่ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว และได้เร่งดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการดำเนินการออกหมายจับไปแล้วรวมทั้งหมด 3 รายคือ 1.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ 2.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ และ 3.นางสาวยศบวร อำมฤต

พร้อมทั้งออกหมายเรียกผู้ต้องหาอีก 3 รายคือ 1.นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 2.นายชินวัฒน์ อัศวโภคี และ 3.นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม

นางพิชญา ธารากรสันติ
นางพิชญา ธารากรสันติ

โดยในส่วนนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ผู้ต้องหาขอเลื่อนนัด แต่ยังไม่ได้แจ้งวันที่แน่นอน โดยอ้างเหตุป่วย โดยมีใบรับรองแพทย์มาประกอบเหตุขอเลื่อนนัด

“ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 3 ราย ยังอยู่ในประเทศ หรือยังไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยจะเรียกให้มาพบดีเอสไอภายในสัปดาห์หน้า”

สำหรับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ดีเอสไอได้ติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดี โดยได้มีการประสานองค์การตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) เพื่อขอความร่วมมือออกหมายน้ำเงินในการขอความร่วมมือสมาชิกตำรวจสากลทั่วโลก ในการสืบสวนหาถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหา หลังจากนั้นดีเอสไอจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือกรมการกงสุล ให้พิจารณายกเลิกหนังสือเดินทางของนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ

และในส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน มีความคืบหน้าคือ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือถึงสำนักงานที่ดินขออายัดอสังหาริมทรัพย์ทางทะเบียน ประกอบด้วย ที่ดิน จำนวน 2 แปลง และบ้าน จำนวน 1 หลัง ไว้เพื่อทำการตรวจสอบตามกฎหมาย นอกจากนี้ได้มีการสอบสวนพยานบุคคล ซี่งเป็นพนักงานในบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไว้จำนวนหนึ่ง และอยู่ระหว่างตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ADVERTISMENT

“บ้านและที่ดิน 2 แปลง ชื่อผู้ครอบครองจะเป็นบุคคลใกล้ชิดกับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ซึ่งมีการได้มาในช่วงเวลาที่เกิดการทุจริต STARK จึงอายัดทางทะเบียนไว้เพื่อทำการตรวจสอบ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวผู้ครอบครองทรัพย์ฯว่าจะมีความผิดด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ได้อายัดรถอีกจำนวน 2 คัน เนื่องจากกรมขนส่งได้แจ้งข้อมูลยืนยันกลับมาแล้วว่านายชนินทร์ เย็นสุดใจ เป็นผู้ครอบครอง”

โดยในเรื่องนี้อธิบดีดีเอสไอได้มีข้อสั่งการเน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เร่งติดตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และให้เร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง

“เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายจากผู้ลงทุนผู้ถือหุ้นกู้ 9,198 ล้านบาท และหุ้นสามัญ มีความเสียหายประมาณ 14,478 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้เสียหายผู้ถือหุ้นกู้นั้น จะมีตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ นั่นคือธนาคารกสิกรไทยและบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ซึ่งเบื้องต้นได้เข้ามายื่นเอกสารให้ดำเนินคดีแทนผู้ถือหุ้นกู้ทุกรายแล้ว ”

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ยังเคยมีคดีที่มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกับ STARK ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เคยมาร้องทุกข์ให้ดีเอสไอดำเนินคดี จำนวน 5 คดี ซึ่งได้มีการสรุปสำนวนส่งไปยังพนักงานอัยการ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียบร้อยแล้ว และยังมีอีก 1 คดี ที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน