บล.กรุงศรี พัฒนสินฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้วิ่งขึ้นแนวต้าน 1,550-1,560 จุด คาดหวังเฟดยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อสหรัฐลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐ Soft Landing อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง ติดตามการเมืองภายในที่ไม่แน่นอน อาจกดดันต่อทิศทางการลงทุน
วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสินฯ รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่าเมื่อวันศุกร์ (28 ก.ค.) ดัชนี SET Index พุ่งแรง 19 จุด (+1.23%) ปิดที่ 1,543 จุด นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร คาดหวังการเมืองเดินหน้าหลังประธานสภานัดเปิดประชุมเพื่อเลือกนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 4 ส.ค. 2566
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
- จ่ายเงินประกันสังคมเท่าไร ม.33, 39, 40 พฤษภาคม 2567 เช็กที่นี่
- 10 พฤษภาคม 2567 ขึ้นทางด่วนฟรี 60 ด่าน
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,550/1,560 จุด ตอบรับความคาดหวังเฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มไม่ถดถอย แต่จะชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป (Soft Landing)
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือ 80 เหรียญต่อบาร์เรล จะหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามควรติดตามสถานการณ์การเมืองภายในที่ไม่แน่นอน ซึ่งอาจกดดันต่อทิศทางการลงทุน
ประเด็นสำคัญวันนี้คือ 1.เงินเฟ้อสหรัฐลดลงต่อเนื่อง ทำให้โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกมีความเป็นไปได้น้อยลง โดยสหรัฐรายงานดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Price Index) เดือน มิ.ย. โดย Headline PCE ลดลงสู่ระดับ 3% จาก 3.8% และ Core PCE ลดลงสู่ระดับ 4.1% จาก 4.6% ในเดือน พ.ค. ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับเชิงบวก เนื่องจากโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. อีกครั้งมีความเป็นไปได้น้อยลง
2.DELTA แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2 พุ่งทำ all time high แต่ TRUE ยังขาดทุนสุทธิ โดยทาง DELTA มีกำไรสุทธิ 4,668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% QOQ และ 9.5% YOY และสูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 3,800 ล้านบาท นับเป็นกำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วน TRUE มีผลขาดทุนสุทธิ 2,320 ล้านบาท มากกว่าที่เราคาดว่าจะขาดทุนสุทธิเพียง 1,033 ล้านบาท
3.วันนี้ติดตามงบการเงิน PTTEP คาดมีกำไรสุทธิทรงตัวทั้ง QOQ และ YOY เบื้องต้น Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิของ PTTEP ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 19,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% QOQ แต่หดตัว 4% YOY ตลาดคาดงบฯ PTTEP จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากปริมาณการผลิตและขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาขาย (ASP) มีโอกาสสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy อาทิ PTTEP, TOP, BCP, SPRC ตามราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น และ KCE, HANA, BE8, BBIK รับอานิสงส์หุ้นกลุ่มเทคฯดีดตัวขึ้น
และ SAPPE, ICHI, CBG, INTUCH, ADVANC, BEM, WHA, MINT, AOT, SISB, SPA, TKN แนวโน้มกำไร 2 เติบโต
โดยหุ้นแนะนำวันนี้คือ PTTEP (ปิด 159.5 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 169 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง ส่งผลบวกโดยตรงต่อ PTTEP ในฐานะ Oil link Company
และ CBG (ปิด 73.25 บาท ซื้อ/เป้า 82 บาท) ระยะสั้นมี Sentiment บวกจากน้ำตาลลดลง ส่วนงบฯไตรมาส 2 คาดมีกำไรสุทธิ 419 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 59% QOQ จากยอดขายที่ฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ และมาร์จิ้นดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง
