กสิกรไทย ส่ง KIV เรือธงปั่นกำไรปีแรก 1.1 พันล้าน เจาะรายเล็ก

กสิกรไทย ส่ง KIV เรือธงปั่นกำไรปีแรก 1.1 พันล้าน

ธนาคารกสิกรไทย ทุ่ม 3 หมื่นล้านบาท ตั้งบริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด หรือ KIV เจาะลูกค้ารายย่อยกลุ่ม Underserve มั่นใจเป็น Game Changer เรือธงปั้นรายได้ คาดปี 2566 โกยกำไร 1.1 พันล้านบาท ยอดสินเชื่อ 4 หมื่นล้านบาท

วันที่ 2 สิงหาคม 2566 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ธนาคารได้ทดลองทำธุรกิจภายใต้ บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด หรือ เคไอวี (KIV) ซึ่งให้บริการกับลูกค้าที่ธนาคารไม่สามารถเข้าถึงได้ หรือกลุ่ม Underserve โดยโมเดลการทำธุรกิจจะมีความแตกต่างจากธนาคาร มีความยืดหยุ่น และตอบโจทย์กลุ่มที่เข้าไม่ถึง รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน

ดังนั้น ธนาคารจึงได้แยกธุรกิจออกมา (Spin-Off) โดย KIV จะเป็นบริษัทโฮลดิ้งภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย โดยธนาคารถือหุ้น 100% มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท และจะมีบริษัทที่อยู่ในโครงสร้างของ KIV ด้วยกัน 14 บริษัท ซึ่งจะมีการร่วมกับพันธมิตรในการทำธุรกิจ เพื่อความคล่องตัว และต้นทุนที่ลดลง

“โดย KIV จะเป็น Game Changer ของธนาคารกสิกรไทยที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธนาคารและพันธมิตร เพื่อสร้างรายได้บนความเสี่ยงที่คุ้มค่า ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม และ KIV จะเป็นเรือธงที่ 1 ซึ่งในระยะข้างหน้าจะมีอะไรออกมาอีก”

นายพัชร สมะลาภา Group Chairman ของ บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายของ KIV คือ เพิ่มความสามารถในการให้บริการการเงินกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนกว่า 49% ภายใต้โจทย์สำคัญคือ ต้องลดต้นทุนการดำเนินงาน (Operating Cost) และลดต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) เพื่อให้ยังคงความสามารถในการสร้างกำไรของธุรกิจ

Advertisment

ทั้งนี้ เป้าหมายภายใต้ KIV ทั้ง 14 บริษัท ตั้งเป้ากำไรปี 2566 อยู่ที่ 900-1,100 ล้านบาท และภายใน 2569 จะมีกำไร 4,500-5,000 ล้านบาท หลังจากปี 2565 มีกำไรแล้วกว่า 81 ล้านบาท โดยมียอดปล่อยสินเชื่อรวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากบริษัท เงินให้ใจ เป็นธุรกิจจำนำทะเบียนราว 2 หมื่นล้านบาท และจากบริษัท กสิกรไลน์ (LINE BK) อีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี KIV จะดำเนินธุรกิจภายใต้ใบอนุญาต (License) สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์

อย่างไรก็ดี บริษัทอยู่ระหว่างกำลังลงทุนเพิ่มอีก 3-4 บริษัท ซึ่งภายในเร็ว ๆ นี้จะเป็นการลงทุนที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม “การท่องเที่ยว” ซึ่งอาจจะเป็นการจองตั๋ว-ที่พัก เป็นต้น โดยอนาคตอาจจะขยายไปถึงการปล่อยสินเชื่อได้

“เป้าหมาย KIV จะเป็นการหาลูกค้าที่เป็นกลุ่ม UnderBank และที่ผ่านมาเราได้ทดลองมาหลายรูปแบบ โดยเราไม่ได้มีการตั้งเป้าเรื่องของหนี้เสีย ตราบใดที่มีรายได้ ส่วนเงินลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2569 จะเพิ่มเป็น 6.5-7 หมื่นล้านบาท และเงินสินเชื่อจะเพิ่มเป็น 7.5-8 หมื่นล้านบาท”