
ทีทีบี-พรูเด็นเชียล ส่งประกันยูนิตลิงค์ตัวใหม่ ชิงเบี้ย 2 ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เป้ายอดขายพันล้าน ชูจุดเด่นเหนือคู่แข่ง “ไม่คิด Premium Charge ตลอดอายุสัญญา-คิดค่าฟีการบริหารกรมธรรม์ต่ำกว่าตลาด-มีโบนัสพิเศษ” ไม่กังวลภาวะตลาดทุน
วันที่ 25 สิงหาคม 2566 นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์พันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคล บมจ.ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า ทีทีบีได้จับมือพันธมิตร พรูเด็นเชียลประกันชีวิต (ประเทศไทย) ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาแข่งขันในตลาดคือ “ทีทีบี เฟล็กซี่ ไลฟ์ โพรเทค (ยูนิตลิงค์) ด้วยคอนเซ็ปต์ “ปิดความเสี่ยงด้วยเงินที่สบายกระเป๋า” โดยสามารถเลือกชำระเบี้ยได้ 5 ปี 8 ปี และ 10 ปี ที่ความคุ้มครอง 15 ปี
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ 1.ไม่คิดค่าใช้จ่ายที่หักจากเบี้ยประกันภัย (Premium Charge) สำหรับเบี้ยประกันภัยหลักตลอดอายุสัญญา และสามารถสับเปลี่ยนกองทุนได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม ปัจจุบันมีกองทุนให้เลือกทั้งหมด 18 กอง ซึ่งต่างจากสินค้ายูนิตลิงค์อื่น ๆ ในตลาด ที่จะคิดค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ อยู่ที่อัตรา 2-12% ของค่าเบี้ยประกัน ทั้งนี้ทีทีบีหวังเพื่อทำให้กรมธรรม์ของลูกค้าสามารถทำงานอยู่ได้และมีความยั่งยืน
2.ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการออกกรมธรรม์ (Policy Fee) 3.คิดค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ (Admin Fees) ต่ำกว่าตลาดที่อัตรา 0.75% ขณะที่ตลาดเก็บอยู่ที่อัตรา 1-1.5%
นอกจากนี้ลูกค้ายังจะได้รับโบนัสพิเศษแรกเข้า (Welcome Bonus) ในปีกรมธรรม์ที่ 1 สำหรับระยะเวลาชําระเบี้ยประกัน 5 ปี ที่ 2.5% ชําระเบี้ยเบี้ยประกัน 8 ปี ที่ 4% และชําระเบี้ยประกัน 10 ปี ที่ 5% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระในปีแรก นับตั้งแต่วันแรกที่ลงทุน
และมอบ Loyalty Bonus ให้ตั้งแต่ปีที่ 11 เป็นต้นไป สูงสุดถึง 20% ของเบี้ยประกันภัยหลัก ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ยังมอบความยืดหยุ่นให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนเลือกวันครบกำหนดสัญญาได้ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 15 เป็นต้นไป หรือจะเลือกความคุ้มครองต่อเนื่องจนถึงอายุครบ 99 ปี และยังสามารถกำหนดความคุ้มครองชีวิตได้
ตัวอย่าง ลูกค้าผู้ชาย เจ้าของธุรกิจ อายุ 45 ปี มีครอบครัวแล้ว มีลูก 1 คน เลือกซื้อกรมธรรม์ตัวนี้ ชําระเบี้ยประกัน 5 ปี ต้องการคุ้มครองความเสี่ยงให้กับธุรกิจ และส่งต่อมรดกให้กับครอบครัวในอนาคต แบบประกันที่ลูกค้าซื้อมีรายละเอียดคือ 1.เลือกชําระเบี้ยประกันภัยหลัก ปีละ 1 ล้านบาท 2.เลือกความคุ้มครอง 20 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลัก 3.ทุนประกันภัย 20 ล้านบาท
- ณ ต้นปีกรมธรรม์ที่ 1 รับโบนัสพิเศษแรกเข้า 2.5% ของเบี้ยประกันภัยหลักที่ชําระเท่ากับ 25,000 บาท (คํานวณจากอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยเฉลี่ย 5% ต่อปี)
- ณ ต้นปีกรมธรรม์ที่ 6 ลูกค้าอายุ 50 ปี
- ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 6 มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน เท่ากับ 5,334,866 บาท
- ผลประโยชน์กรณีเสียชีวติ ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 6 เท่ากับ 25,534,866 บาท (โบนัสพิเศษแรกเข้าและโบนัสพิเศษจะถูกนําไปซื้อหน่วยลงทุนรวมกับกองทุนภายใต้กรมธรรม์สำหรับเบี้ยประกันภัยหลัก)
- ณ ต้นปีกรมธรรม์ที่ 11-15 รับโบนัสพิเศษ 2% ของเบี้ยประกันภัยหลักรายปี เท่ากับ 20,000 บาทต่อปี
- ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 11 มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน เท่ากับ 5,841,870 บาท
- ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 11 เท่ากับ 25,841,870 บาท (คํานวณจากจํานวนเงินเอาประกันภัยของเบี้ยประกันภัยหลัก + มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลัก + มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษ (ถ้ามี))
มีทีมจัดพอร์ต
นายชวมนต์ กล่าวต่อว่า จากการประเมินวัฏจักรตลาดทุนในตอนนี้ ถือว่าปรับตัวดีขึ้นมาเมื่อเทียบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็มองว่าค่อนข้างเหมาะสมในการลงทุนยูนิตลิงค์ แต่ต้องมองเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยตัวเลือกที่มีการจ่ายเบี้ย 5 ปี 8 ปี และ 10 ปี จะเป็นการ DCA ที่เชื่อว่าคงจะข้ามแต่ละวัฏจักรลงทุนไปได้
อย่างไรก็ดี มีบริการจัดพอร์ตตามระดับความเสี่ยงสูง-กลาง-ต่ำ ให้กับลูกค้าด้วย โดยทีม Investor Office ถ้าลูกค้ามองว่าตอนนี้อยู่ในไซเคิลที่เหมาะสม อาจจะใช้คำว่า risk-on ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ให้สูงกว่าปกติ และเมื่อเจอไซเคิลช่วงเกิดเศรษฐกิจแย่ สามารถปรับพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยให้ลูกค้าได้ ทั้งนี้หากลูกค้ารับความเสี่ยงได้ต่ำมาก ๆ ก็มีทางเลือกกองทุน money market ให้ลงทุนด้วย
“อยากให้ลูกค้ามั่นใจว่าเราจะสามารถช่วยปรับพอร์ตให้กับลูกค้าในช่วงจังหวะที่เหมาะสม แต่เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว กรอบการปรับก็อาจจะไม่ได้ถี่มาก เพราะสุดท้ายอาจจะไม่ได้ช่วยลูกค้ามากขนาดนั้นเมื่อเทียบกับ asset allocation”
ยอดขายพันล้าน
ทั้งนี้ในช่วงกลางปี 2567 จะมีการเพิ่มเติมในส่วนของสัญญาแนบสุขภาพ โดยลูกค้าเก่าสามารถซื้อเพิ่มได้ด้วย คาดหวังยอดขายจากผลิตภัณฑ์ตัวนี้สิ้นปี 2566 น่าจะเกือบ 1 พันล้านบาท และปี 2567 น่าจะมียอดขายหลายพันล้านบาท โดยตอนนี้มีพนักงานแบงก์ที่มีใบอนุญาตลงทุนพร้อมขายสินค้าตัวนี้กว่า 2,000 คน
“เรากำลังเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มระดับกลางถึงบนสามาถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้ โดยมุ่งเน้นขายความคุ้มครองชีวิตที่สูงขึ้น จ่ายเบี้ยน้อยลง โดยเบี้ยขั้นต่ำ สำหรับเลือกชำระเบี้ย 10 ปี อยู่ที่ 50,000 บาทต่อปี หรือจ่ายเบี้ยเฉลี่ยต่อเดือนไม่ถึง 5,000 บาท และชำระเบี้ย 8 ปี จ่ายเบี้ยอยู่ที่ 75,000 บาทต่อปี และสำหรับเลือกชำระเบี้ย 5 ปี จ่ายเบี้ยอยู่ที่ 100,000 บาท”