อธิบดีกรมธนารักษ์ ชี้แจงปมตัดไม้พะยูงในที่ดินราชพัสดุ จ.กาฬสินธุ์

กรมธนารักษ์

อธิบดีกรมธนารักษ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีตัดไม้พะยูงในที่ดินราชพัสดุ จ.กาฬสินธุ์ ยันกรณีไม้ของกลางหายส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เร่งสอบสวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา ยัน สพป.เขต 2 ขอตัดเอง

วันที่ 7 กันยายน 2566 นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวและภาพข่าวกรณีการลักลอบตัดไม้พะยูงในสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์ และมีการขนย้ายไม้พะยูงในส่วนที่เหลือจากการลักลอบตัดมาเก็บไว้ที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ ต่อมาไม้ดังกล่าวได้สูญหายไป และกรณีการตัดไม้พะยูงในเขตโรงเรียนคำไฮวิทยา รวมถึงภาพข่าวหลักฐานการเจาะต้นไม้พะยูง ในโรงเรียนโคกกลางเหนือ นั้น

จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น กรมธนารักษ์ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

1) กรณีไม้พะยูงที่นำมาเก็บไว้หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อหายไป ซึ่งจากการแถลงข่าวของสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เกิดจากการยักยอกไม้พะยูงของกลางไปจากหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อโดยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวน 3 คน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพนักงานรวม 2 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ซึ่งเป็นผู้นำหมู่บ้านจำนวน 3 คน ซึ่งในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารทั้งหมด ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว

2) กรณีการตัดต้นไม้พะยูงที่โรงเรียนคำไฮวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและสาเหตุในการขอตัดต้นไม้พะยูง เนื่องจากเกิดเหตุมีผู้ลักลอบตัดต้นไม้ที่อยู่ในโรงเรียนบ่อยครั้ง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงประสงค์ที่จะตัดไม้พะยูงดังกล่าว

ทั้งนี้ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ได้มีหนังสือแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ว่าการตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุ ผู้ใช้ที่ราชพัสดุสามารถดำเนินการได้ โดยจะต้องตัดต้นไม้เท่าที่จำเป็นตามแนวทางที่กรมธนารักษ์กำหนด

เช่น กีดขวางการใช้พื้นที่เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือกีดขวางสายไฟฟ้า หรือต้นไม้อาจโค่นล้มเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน หรือเป็นการตัดแต่งกิ่งไม้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสวยงาม และกรมธนารักษ์ก็ยังได้มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจ กรณีการตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุให้สอดคล้องกับนโยบายของทางราชการ ที่ให้ทุกหน่วยงานมีการอนุรักษ์ต้นไม้และป่าไม้ในเขตพื้นที่ราชพัสดุ

โดยให้หลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้ใหญ่ ยกเว้นกรณีที่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ โดยให้ผู้ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด

อธิบดีกรมธนารักษ์ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการประเมินราคาไม้พะยูง และการขายไม้พะยูง ว่าการประเมินราคาไม้พะยูงและการขายไม้พะยูงในกรณีที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นการขายโดยวิธีเฉพาะเจาะจง โดยการตกลงราคาในราคา 152,200 บาท

ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยคณะกรรมการประเมินราคากลาง ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 แต่งตั้งขึ้น และดำเนินการขายโดยวิธีดังกล่าวเอง โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ไม่ทราบว่าเอื้อให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่ เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

3) กรณีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ปรากฏภาพข่าวหลักฐานกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ นำสว่านมาเจาะต้นไม้พะยูงในโรงเรียนโคกกลางเหนือ อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 9 ต้น และมีการพูดคุยกับครูว่าจะมีการประมูลไม้พะยูงขาย

ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ โดยเชิญเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามทุกคน ได้รับการยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมธนารักษ์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด

“หากกรมธนารักษ์พบว่าเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นกับการกระทำความผิด กรมธนารักษ์จะถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง โดยจะดำเนินการตามกระบวนทางวินัยและทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป” อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าว