คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
หุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 ก.ย.) แกว่งตัวในกรอบจำกัด
โดย “อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ก่อนลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังเรื่องของการเมือง แต่หุ้นโดยส่วนใหญ่ก็ปรับตัวขึ้นไปเกือบหมดแล้ว หลังจากนี้ตลาดคงจับตาดูเรื่องของนโยบายว่าจะทำอะไรต่อไป ทำให้ดัชนีแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ
นอกจากนี้ หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำสุดรอบ 7 เดือน ทำให้เกิดความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือตรึงดอกเบี้ยระดับสูงไว้ในระยะเวลาที่นานขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US bond yield)
และดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar Index) ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อบรรยากาศการลงทุนและทำให้มีเเรงเทขายเกิดขึ้น
มองไปในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า (11-15 ก.ย.) “อภิชาติ” ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งตัวไซด์เวย์ มีแนวรับที่ 1,520-1,540 จุด แนวต้าน 1,560 จุด ประเด็นสำคัญต้องติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 13 ก.ย.
เบื้องต้นค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะมีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 3% ขณะที่เดือน ก.ค.ปรับขึ้นมาเป็น 3.2% และในเดือน ส.ค.นี้ คาดว่าจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3.6% ซึ่งหากตัวเลขออกมามากกว่า หรือเท่ากับตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ น่าจะเป็นความเสี่ยงที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ
รวมถึงต้องติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐ ซึ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ดอกเบี้ยเฟดก็เสี่ยงจะขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกหุ้นที่มีความผันผวนต่ำและได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก โดยหุ้นเด่น แนะนำหุ้นในกลุ่มอาหาร ได้แก่ บมจ.เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ (NSL) และหุ้นกลุ่มส่งออก ได้แก่ บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE)