โบรกฯ ประเมินแนวโน้มราคาทองคำซึม ตลาดขาดปัจจัยกระตุ้น สัปดาห์หน้าประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คาดคงอัตราดอกเบี้ย แนะกลยุทธ์ขายทำกำไรระยะสั้น ให้กรอบที่บริเวณ 1,890 – 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์
วันที่ 16 กันยายน 2566 นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในระยะนี้ค่อนข้างที่จะซึม ๆ เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าในวันที่ 19-20 ก.ย. ทางธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะมีการจัดประชุม โดยตลาดคาดการร์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. แต่ราคาทองคำน่าจะไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมากนัก เพราะส่วนใหญ่มองไปถึงการประชุมในอีก 2 ครั้งที่เหลือในช่วงเดือนพ.ยและธ.ค.ว่า เฟดน่าจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสีก 1 ครั้งแน่นอน
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
ดังนั้นมองว่าราคาทองคำน่าจะซึม ๆ ไปสักพักจนกว่าเฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จึงแนะนำนักลงทุนเล่นระยะสั้น หรือขายทำกำไรระยะสั้นเมื่อถึงแนวต้านน่าจะเหมาะกับตลาดในช่วงนี้มากกว่า ประเมินกรอบที่บริเวณ 1,890 – 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง “วายแอลจี บูลเลี่ยน” เปิดเผยว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ (ณ 14 ก.ย.) จากการถูกกดดันด้วยการปรับตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ที่เข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องด้วยตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่เพิ่มมากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันราคาทองคำมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อทางเทคนิค ประกอบกับตลาดมีความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจีนเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการประกาศลดลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1.25% ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ถูกเปิดเผยออกมาดีกว่าคาดการณ์ จึงส่งเสริมแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจจีน ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยหนุนของราคาทองคำ
ขณะที่ราคาทองคำลาสุดวันที่ 15 ก.ย. ( เวลา 16.45 น.) ราคาทองคำโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 1,918.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศ ทองเเท่งรับซื้อราคาบาทละ 32,350 บาท ขายออกบาทละ 32,450 บาท