บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน ไร้ปัจจัยใหม่หนุน ฟันด์โฟลว์ไหลออกต่อเนื่อง ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,520-1,570 จุด แนะลงทุนใน 4 หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น
วันที่ 19 กันยายน 2566 นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน
โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่มีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง โดย ตลท.ได้สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กันยายน 2566 พบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 147,540.14 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นที่ซื้อสุทธิ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูง คาดช่วยพยุงราคาหุ้นกลุ่มพลังงานหนุนให้ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,520-1,570 จุด
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
ขณะที่ปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ วันที่ 18-24 ก.ย. นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังมีกำหนดเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly : UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน
ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม วันที่ 25 ก.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน วันที่ 27 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2566 วันที่ 29 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ วันนี้ 19 ก.ย. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค., สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือน ส.ค. วันที่ 20 ก.ย. ธนาคารกลางจีน ประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) สหรัฐ รายงานสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 19-20 ก.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยรู้ผลในไทยเช้าวันที่ 21 ก.ย. (FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่ FED
จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%) วันที่ 21 ก.ย. ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประชุมนโยบายการเงิน (นักวิเคราะห์คาดว่า BOE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายและคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย.) วันที่ 22 ก.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงิน (ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
ส่งสัญญาณว่าอาจยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ จะเปลี่ยนมาคุมเข้มนโยบายการเงิน) สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ-ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ก.ย.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ส่งผลบวกกับหุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTTEP, PTT, BCP และ TOP ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้ว่า ยังคงต้องจับตาการประชุม FOMC ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% หาก FED ไม่มีมุมมองการปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต จะทำให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้น