ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง WINDOW ขายหุ้นไอพีโอ 244.20 ล้านหุ้น

บมจ.วินโดว์ เอเชีย (WINDOW) ล่าสุด ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งหุ้นไอพีโอไม่เกิน 244.20 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้า SET รองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต

วันที่ 19 กันยายน 2566 นายธนินทร์ รัตนศิริวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) WINDOW ผู้ผลิตและจำหน่ายประตูหน้าต่างสำเร็จรูปอะลูมิเนียมและยูพีวีซี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) WINDOW เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง WINDOW มีแผนจะออกและเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 244.20 ล้านหุ้น

โดยมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 27.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิตและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดย WINDOW วางเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างอย่างครบวงจร เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครันทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ WINDOW คือ การนำทั้งเส้นอะลูมิเนียม (Aluminum) และเส้นยูพีวีซี (Unplasticized Polyvinyl Chloride : UPVC) มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัท มีทั้งส่วนที่บริษัทผลิตขึ้นและถูกจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และส่วนที่บริษัทรับจ้างผลิตและจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (Original Equipment Manufacturer : OEM)

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตราสินค้าของบริษัท ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าวินโดว์ เอเชีย (Window Asia) วินด์เฟม (Wind Fame) เฟรมเม็กซ์ (FRAMEX) และเอ็นโซ (Enzo) ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะถูกส่งไปจัดจำหน่ายให้แก่ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (Modern Trade) ที่มีสาขาครอบคลุมพื้นที่เกือบทุกจังหวัดในประเทศ และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ที่มีร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่เป็นของตนเองในพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท ได้จากร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างทั้ง 2 รูปแบบ

Advertisment

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมในทุกภูมิภาคของประเทศ ที่มีผลิตภัณฑ์ของบริษัทวางจำหน่าย มีจำนวนรวมกันกว่า 653 แห่ง และร้านค้าวินโดว์ เอเชีย 42 สาขา นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ยังมีวางจำหน่ายผ่านร้านค้าวินโดว์ เอเชีย (“Window Asia Shop”) ซึ่งเป็นหน้าร้านของบริษัท หรือช่องทางออนไลน์ (Online) ของบริษัท บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น หน้าเว็บไซต์ (Website) เฟซบุ๊ก (Facebook) บัญชีไลน์ ออฟฟิศเชียล (LINE Official Account) ลาซาด้า (Lazada) ช้อปปี้ (Shopee) และน็อคน็อค (NocNoc) เป็นต้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทได้โดยตรงผ่านช่องทางต่าง ๆ

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้หลักจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่บริษัทดำเนินการผลิตได้ด้วยตนเอง และสินค้าบางส่วนบริษัทได้จัดหามาจากภายนอก ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดจำหน่าย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์ประตู 2) ผลิตภัณฑ์หน้าต่าง และ 3) ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยผลประกอบการในช่วงปี 2563-2565 บริษัทมีรายได้รวม 747.50 ล้านบาท 835.51 ล้านบาท และ 913.35 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรขั้นต้น 220.33 ล้านบาท 247.37 ล้านบาท และ 239.67 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 73.10 ล้านบาท 99.28 ล้านบาท และ 74.52 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 526.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 42.05 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 536.02 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.56 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภท ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท 

Advertisment

นายธนินทร์กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นการพัฒนาในด้านคุณภาพเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพในการบริหารจัดการ คุณภาพด้านกรรมวิธีการผลิต และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลในด้านต่าง ๆ ได้แก่ มาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบบริหารการจัดการด้านคุณภาพ มาตรฐาน ISO 14000 : 2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และมาตรฐาน ISO 45001 : 2018 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ มีการติดตามประเมินผลและทบทวนเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากกระทรวงอุตสาหกรรม

นายธีรศักดิ์ ทวีปิยมาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน WINDOW มีทุนจดทะเบียน 444,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว 321,900,000 บาท โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ ครอบครัวรัตนศิริวิไล ถือหุ้นรวม 98.68% และจะลดสัดส่วนหลัง IPO เหลือ 71.54% โดยบริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง/วัสดุก่อสร้าง ภายในปี 2566 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

สำหรับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.ลงทุนก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่ และจัดซื้อเครื่องจักรและเครื่องมือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพิ่มพื้นที่ในการผลิตงานทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ประเภทอะลูมิเนียมและยูพีวีซี เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้าสำเร็จรูป และเพิ่มพื้นที่ในการจัดเตรียมงานจัดส่งสินค้า สำหรับรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของบริษัทในอนาคต 2.ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ 3.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ