หุ้นไทย 1,500 จุด แนวรับสำคัญ เผชิญฟันด์โฟลว์ไหลออก-ราคาน้ำมันอ่อนตัว

ตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหุ้น

บล.กรุงศรี ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวแนวรับ 1,500 จุด ตามความกังวล FED ปรับขึ้นและคงดอกเบี้ยระดับสูง ส่งผลค่าเงินดอลลาร์-บอนด์ยีลด์ดีดตัวขึ้น-ฟันด์โฟลว์ไหลออก-ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน จับตาตัวเลขดุลการค้า-ประชุม กนง.

วันที่ 26 กันยายน 2566 นายอาทิตย์ จันทร์สว่าง นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีฯ รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่า วานนี้ดัชนี SET Index ร่วง 15 จุด (-1%) ปิดที่ระดับ 1,507 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับต่างประเทศกังวลภาวะดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน และมีปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐกดดัน

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,500 จุด ตามความกังวล FED ปรับขึ้นและคงดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ดีดตัวขึ้น และฟันด์โฟลว์ไหลออก นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงหลังรัสเซียผ่อนคลายคำสั่งแบนส่งออกน้ำมันเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน

               

อย่างไรก็ตามการทำ Window dressing ปิด NAV ไตรมาส 3 จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวนด์ขึ้นได้

ประเด็นสำคัญวันนี้

1.มูดี้ส์เตือนอาจพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐหากหน่วยงานรัฐปิดทำการ (Shutdown) โดยปัญหาเพดานหนี้และการปิดหน่วยงานราชการบ่อยครั้งอาจจะทำให้มูดี้ส์ลดอันดับความเชื่อถือของสหรัฐจากระดับสูงสุด (Aaa) โดยสภาคองเกรสจะต้องผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และลงนามโดยประธานาธิบดีให้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย. ไม่เช่นนั้นหน่วยงานรัฐบางส่วนจะถูกปิดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป

2.ติดตามตัวเลข ส่งออก/นำเข้า และดุลการค้าของไทยเดือน ส.ค. โดยจับตาดุลการค้าหากขาดดุลมากขึ้นจะเป็นลบกับตลาด เพราะปัจจัยนี้จะกดดันให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลตามไปด้วย (คาดดุลบริการ + เงินโอนแย่ลง) บ่งชี้ถึงเงินทุนต่างชาติไหลออก ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง

3.ประชุม กนง. (27 ก.ย. 2566) ยังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย หากอิงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ จีดีพีและอัตราเงินเฟ้อ มีความเป็นไปได้ที่แบงก์ชาติจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยคล้ายกับเฟดและแบงก์ชาติอื่น ๆ แต่ยังไม่ปิดโอกาสที่แบงก์ชาติจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น (1 ปี) ของไทยซึ่งสะท้อนอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นสู่ระดับ 2.4% สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 2.25% ไปแล้ว

หุ้นแนะนำวันนี้

BCH (ปิด 19.70 บาท ซื้อ/เป้า 23 บาท) คาดว่ากำไรสุทธิของ BCH จะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 จากแรงส่งของโรคระบาดที่มากขึ้น รวมถึงมีกลุ่มผู้ป่วยจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิประมาณ 425 ล้นบาท เพิ่มขึ้น 22% YOY

CENTEL (ปิด 47 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 53 บาท) ดักเก็งกำไร คาดได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวหรือ Golden week ของชาวจีน ผสานกับไทยให้ฟรีวีซ่าจีนเริ่ม 25 ก.ย. 2566-ก.พ. 2567