
บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัว Sideway ออกข้างจากความกังวลตัวเลขผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงรอลุ้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จึงให้กรอบดัชนี 1,500-1,550 จุด แนะลงทุนในหุ้น 3 กลุ่มเด่นรับประโยชน์นโยบายรัฐ ลดค่าไฟฟ้า-ฟรีวีซ่า-แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
วันที่ 26 กันยายน 2566 นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,500-1,550 จุด
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- กรุงไทย-ออมสิน ระเบิดโปรฯ เงินฝาก “ดอกเบี้ยพิเศษ” เช็กเงื่อนไขที่นี่
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณเชิงลบ เมื่อไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ ก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหม่ต่อแผนการปรับโครงสร้างหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ และปัญหาความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังมีอยู่จากการที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียจะเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือในเดือนหน้า ส่วนสหรัฐกำลังเจรจากับเวียดนามเกี่ยวกับข้อตกลงการขายอาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนและกีดกันรัสเซียจากการขายอาวุธให้กับเวียดนาม
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ วันนี้ 26 ก.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ วันที่ 27 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2566 (นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 2.25%)
วันที่ 29 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และสัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคและดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ 26 ก.ย. สหรัฐ รายงานราคาบ้านเดือน ก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือน ส.ค. วันที่ 27 ก.ย. จีน รายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ส.ค. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 28 ก.ย. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลข GDP 2Q66 (ขั้นสุดท้าย) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือน ส.ค.
วันที่ 29 ก.ย. อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือน ก.ย. สหรัฐรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. วันที่ 30 ก.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.ย. เส้นตายในวันที่ 30 ก.ย. ที่สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องผ่านกฎหมายงบประมาณก้อนใหม่ให้รัฐบาลมีเงินใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น 3 กลุ่มเด่นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ อาทิ 1.กลุ่มที่ได้ประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติ ครม. ได้แก่ HMPRO, GLOBAL, DOHOME, CPALL, CPAXT และ CRC
2.หุ้นที่ได้รับประโยชน์นโยบายฟรีวีซ่า ได้แก่ AOT, CENTEL, ERW, SPA, RP และ AU
3.หุ้นที่รับประโยชน์จากนโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท ได้แก่ HMPRO, DOHOME, GLOBAL, ILM, COM7, CPALL, CRC, MAKRO, TNP, KK