ส่องกำไร 8 แบงก์ Q3/66 “เอเซียพลัส” คาดการณ์ 6 หมื่นล้าน โต 14%

ส่องคาดการณ์กำไร 8 แบงก์ งวดไตรมาส 3/2566 “เอเซียพลัส” คาดการณ์ 6 หมื่นล้าน โต 14% YOY

วันที่ 18 ตุลาคม 2566 นายภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2566 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง ประกอบด้วย 1.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) 2.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) 3.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 4.ธนาคารกรุงไทย (KTB)

5.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) 6.ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) 7.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) และ 8.ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP)

จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 60,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) แต่ลดลง 1% เทียบจากไตรมาสก่อนหน้า (QOQ)

สำหรับภาพรวมของ 4 แบงก์ใหญ่คือ 1.BBL กําไรสุทธิไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้น QOQ และ YOY หนุนด้วยรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (NII) ตามการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และการลดเงินฝากออมทรัพย์ลงมาสอดคล้องกับธนาคารพาณิชย์ใหญ่อื่น ๆ

รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ต่ำลงตามฤดูกาล (เร่งตัวอีกครั้งไตรมาส 4 ตามฤดูกาล) และทิศทาง Credit cost ต่ำลงจาก Coverage ratio ที่อยู่ในระดับสูงที่ 287.1% สูงสุดในกลุ่ม (ค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 180.8%) พร้อมรองรับความเสี่ยงได้พอสมควร

และกําไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท (+52.2% YOY) คิดเป็นสัดส่วน  53.4% ของประมาณการกําไรสุทธิปี 2566 ของฝ่ายวิจัย (54.8% ของประมาณการกําไรสุทธิปี 2566 โดย Bloomberg Consensus ณ 4 ส.ค. 2566) จึงคงประมาณการกําไรสุทธิปี 2566 ที่ 4 หมื่นล้านบาท เติบโต 37% YOY

2.SCB แนวโน้มกำไรสุทธิครึ่งปีหลังเติบโต YOY (กำไรสุทธิครึ่งปีแรก คิดเป็นสัดส่วน 54.5% ของประมาณการทั้งปี ไตรมาส 4/2566 ลดลง QOQ หลัก ๆ เพราะ OPEX ตามฤดูกาล) หนุนด้วยทิศทาง NII ตามดอกเบี้ยขาขึ้น โดยช่วงที่ผ่านมา SCB มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามการประชุม กนง. รอบล่าสุด แบ่งเป็นฝั่งสินเชื่อเพิ่ม M-Rate อย่างละ 0.25%

ส่วนฝั่งเงินฝาก คงดอกเบี้ยออมทรัพย์บุคคลธรรมดา ปรับเพิ่มเฉพาะดอกเบี้ยออมทรัพย์นิติบุคคลราว 0.10% ขณะที่เงินฝากประจำ (สัดส่วน 18% ของเงินฝาก) อายุ 3-24 เดือน สูงขึ้นเฉลี่ยราว 0.22% ภาพรวม

ประเมินบวกต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) งวดไตรมาส 4/2566 เชิง YOY และเล็กน้อย QOQ

3.KBANK กำไรสุทธิครึ่งปีแรก อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท (-1.2% YOY) คิดเป็นสัดส่วน 57% ของประมาณการฝ่ายวิจัยทั้งปี และ 53% ของ Bloomberg consensus ด้วยแนวโน้ม Credit cost ช่วงครึ่งปีหลังทรงตัวจากครึ่งปีแรกที่ 2.06%

รวมถึงความผันผวนของรายการวัดมูลค่าสินทรัพย์ฯ (FVTPL) และ OPEX ที่มีโอกาสเร่งตัวตามฤดูกาลในช่วงไตรมาส 4 จึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 7.6% YOY (ฐานกำไรไตรมาส 4/2565 ต่ำอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท)

4.KTB กําไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท (+18% YOY) คิดเป็นสัดส่วน 53% ของประมาณการกําไรฝ่ายวิจัยทั้งปีที่ 3.8 หมื่นล้านบาท (+14% YOY เพราะวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น) และ 52% ของประมาณการกําไรโดย Bloomberg consensus (ณ 25 ส.ค. 2566) ภาพรวมเชื่อว่าประมาณการยังสอดคล้องกับทั้งฝ่ายวิจัยและ BB consensus