หุ้นไทยอ่อนตัวแนวรับ 1,390-1,395 จุด กังวลบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง-สงครามตึงเครียด

หุ้นไทย
Photo : pexels

บล.กรุงศรีฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวแนวรับ 1,390-1,395 จุด ตามความกังวลบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ เดือน ก.ย. +12.3% ประกอบกับตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้น หลังอิสราเอลประกาศความพร้อมที่จะโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา เป็นลบต่อภาพการลงทุน แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัว

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีฯ รายงานว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ดัชนี SET Index เพิ่มขึ้น 11 จุด (+0.77%) ปิดที่ระดับ 1,402 จุด ดัชนีมี Technical Rebound ได้แรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มธนาคารช่วยหนุนดัชนี นำขึ้นโดย CPALL CPAXT SCB และ KBANK

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,390-1,395 จุด ตามความกังวลบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังยอดขายบ้านใหม่สหรัฐเดือน ก.ย. +12.3% MOM ประกอบกับสถานการณ์ตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้น หลังอิสราเอลประกาศความพร้อมที่จะโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นลบต่อภาพการลงทุน

ดังนั้น จึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น PTTEP BCP SPRC TOP ตามราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง PTTGC IVL SCGP SCC DOHOME GLOBAL ตามอานิสงส์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ และกลุ่มที่คาดงบไตรมาส 3 เติบโตอย่าง BDMS BH BCH CHG ADVANC BTS BEM SAPPE ICHI OSP CBG AMATA TOP SPRC CENTEL AOT

โดยหุ้นแนะนำวันนี้คือ PTTEP (ปิด 170 บาท ซื้อ/เป้า 196 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบกลับมาเพิ่มขึ้น 1.65 เหรียญ หลังอิสราเอลประกาศจะไม่ล้มเลิกแผนโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา ขณะที่วันพรุ่งนี้ PTTEP จะประกาศงบไตรมาส 3 เป็นบริษัทแรกในกลุ่ม ปตท.

Advertisment

และ BH (ปิด 263 บาท ซื้อ/เป้า 282) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% QOQ และ 40% YOY จากจำนวนเตียงเพิ่มขึ้น 5.5% จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น และมีการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ย 6.6%

สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้คือ 1.กระเป๋าเงินดิจิทัลยังไม่ได้ข้อสรุป เตรียมเสนอปรับเขื่อนไขผ่าน 3 ทางเลือกคือ 1.ให้สิทธิเฉพาะผู้ยากไร้ 15 ล้านคน ใช้งบฯ 1.5 แสนล้านบาท 2.ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 25,000 บาท จะเหลือผู้ได้สิทธิ 43 ล้านคน ใช้งบฯ 4.3 แสนล้านบาท และ 3.ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 50,000 บาท จะเหลือผู้ได้สิทธิ 49 ล้านคน ใช้งบฯ 4.9 แสนล้านบาท

ทั้ง 3 แนวทาง แม้จะมีผลให้เม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจลดลง แต่จะส่งผลดีทางด้านภาระหนี้ภาครัฐ การขาดดุลงบประมาณ และเสี่ยงถูกลดอันดับเครดิตของประเทศน้อยลง

2.ตลาดหุ้นสหรัฐ (Nasdaq) ร่วงหนักจากแรงขายหุ้นในกลุ่ม Tech ผิดหวังผลประกอบการ โดยดัชนี Nasdaq ลดลง 319 จุด (-2.43%) ปิดที่ 12,821 จุด จากแรงเทขายหุ้นกลุ่ม Tech หลังจากบอนด์ยีลด์สหรัฐกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง และบริษัทจดทะเบียนรายงานผลประกอบการต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะหุ้นอัลฟาเบทร่วง 9.5% หลังจากรายได้จากธุรกิจกูเกิลคลาวด์ (Google Cloud) ต่ำกว่าคาด

Advertisment

3.คืนนี้ติดตามสหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 3 สะท้อนความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เบื้องต้น Consensus คาด GDP (ประกาศครั้งที่ 1) ของสหรัฐจะขยายตัว 4-4.3% เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 2.1% ขณะเดียวกัน แบบจำลอง GDP Now ของเฟดสาขาแอตแลนตาคาดว่า GDP ไตรมาส 3 จะขยายตัวสูงถึง 5.4% มากกว่าที่ Consensus คาดไว้