บอนด์ยีลด์ลดลงต่ำสุดรอบ 1 เดือน หนุนหุ้นไทยวิ่งแนวต้าน 1,425-1,430 จุด

หุ้นไทย SET
Photo by PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP

บล.กรุงศรีฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,425-1,430 จุด ตามคาดการณ์เฟดจะยุติขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ต.ค. ต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ 3.9% กดดันให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอ่อนลง แตะระดับ 2.51% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีฯ รายงานว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.) ดัชนี SET Index เพิ่มขึ้น 16 จุด (+1.12%) ปิดที่ระดับ 1,420 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า, ไฟแนนซ์ ได้ผลบวกบอนด์ยีลด์สหรัฐชะลอตัว และมีแรงเก็งกำไรกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรฯ ตามราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,425-1,430 จุด ตามคาดการณ์เฟดจะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ต.ค. ต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ 3.9% กดดันให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอ่อนลงแตะระดับ 2.51% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน

นอกจากนี้ แรงซื้อดักงบฯไตรมาส 3/2566 จะช่วยหนุนหุ้นรายตัวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามการสู้รบในตะวันออกกลางที่ยังคงยืดเยื้อ

ประเด็นสำคัญวันนี้คือ

1.ตัวเลข Nonfarm Payrolls ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายของเฟด โดยสหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 แสนตำแหน่ง และลดลงจากเดือน ก.ย. ที่เพิ่มขึ้น 2.97 แสนตำแหน่ง

Advertisment

ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.9% จาก 3.8% ในเดือน ก.ย. ถือเป็นสัญญาณบวก เพราะข้อมูลนี้จะกดดันให้เฟดคงดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครังถัดไปในวันที่ 13 ธ.ค. 2566

2.นายกฯ เห็นชอบเปิดสถานบริการถึงตี 4 นำร่อง กทม. ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ เริ่ม 15 ธ.ค. โดยเมื่อวันศุกร์นายกฯ อนุญาตให้ 4 จังหวัดดังกล่าวเป็นจังหวัดนำร่องขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น. เริ่ม 15 ธ.ค. 2566 มองเป็นบวกในเชิง Sentiment ต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (โรงแรม) ร้านสะดวกซื้อ และเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ CBG ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการผลิตบรรจุภัณฑ์ และการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปี

3.ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้กลุ่ม Real Sector ประกาศงบฯไตรมาส 3/2566 คาดภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี โดยกลุ่ม Real Sector จะทยอยประกาศงบฯมากขึ้น อาทิ กลุ่มโรงกลั่น, ปิโตรฯ, โรงไฟฟ้า, ค้าปลีก และกลุ่มโรงพยาบาล

มีมุมมองบวก คาดบริษัทส่วนใหญ่จะมีผลกำไรที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นคาดผลประกอบการจะพลิกมีกำไรจากที่เคยขาดทุนอย่างมากในไตรมาส 2/2566 และไตรมาส 3/2565

Advertisment

หุ้นแนะนำวันนี้คือ MTC (ปิด 39.75 บาท ซื้อ/เป้าสูงสุด AA Consensus 49 บาท) ได้ประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดแล้ว ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐที่ลดลงเป็นบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน

และ GULF (45.25 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 58 บาท) ดักเก็งกำไรก่อนประกาศงบฯในช่วงปลายสัปดาห์นี้ คาดกำไรทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เบื้องต้น Consensus คาดว่า GULF จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 ประมาณ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% QOQ และ 200% YOY