บล.กรุงศรีฯประเมินหุ้นไทยแกว่งตัว 1,380-1,400 จุด แม้ราคาน้ำมันดิบขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน ขณะที่ กนง.ปรับลด GDP ปีนี้เหลือ 2.4% ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐ
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีฯ รายงานว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) SET Index ร่วง 14 จุด (-0.98%) ปิดที่ระดับ 1,388 จุด จากแรงเทขายหุ้นที่มีปัจจัยลบเฉพาะตัว อาทิ กลุ่ม CPALL, AOT รวมถึง DELTA ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับลงจากข่าวแบงก์ชาติปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้า
- พนักงานถูกไล่ออก เพราะพากันหนีไฟไหม้ ที่มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล
- เงินอุดหนุนนักเรียน 2567 ช่วยค่าชุด-หนังสือเรียน อนุบาล-ปวช. ได้เท่าไร
- บ้าน-รถกู้ไม่ผ่านพุ่งกระฉูด หนี้ครัวเรือนท่วม-แบงก์ผวา NPL
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET แกว่งตัว 1,380-1,400 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นจากคาดการณ์การประชุมโอเปกพลัสจะลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้า ส่งผลให้เกิดความกังวลการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย นอกจากนี้แรงขายกลุ่มหุ้นที่ถูกลดและถอดออกจาก MSCI ที่จะมีผลวันนี้จะกดดันให้ดัชนีผันผวน
ประเด็นสำคัญ 1.แบงก์ชาติคงดอกเบี้ยตามคาด แต่มี Negative Surprise ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้า โดย กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ตามเดิม แต่มุมมองลบต่อทิศทางเศรษฐกิจ โดยปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือ 2.4% จากเดิม 2.8% และลดคาดการณ์ GDP ปีหน้าเหลือ 3.2% หากไม่มี Digital Wallet และโต 3.8% หากมี Digital Wallet ซึ่งลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 4.4%
2.สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 3/2566 (ครั้งที่ 2) โตแรงเกินคาด แต่ตลาดมองแนวโน้มไปที่ไตรมาส 4/2566 มากกว่า โดยสหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 3/2566 (ครั้งที่ 2) ขยายตัว 5.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2566 ที่ขยายตัว 2.1% และสูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ 4.9% และสูงกว่า Consensus คาดไว้ที่ 5%
ย้ำมุมมองเดิมมองตลาดไม่ตื่นเต้นกับตัวเลขดังกล่าว และให้น้ำหนักไปที่ไตรมาส 4/2566 และปีหน้าซึ่งแนวโน้ม GDP ของสหรัฐมีทิศทางชะลอตัว โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาคาด GDP ไตรมาส 4/2566 ของสหรัฐจะขยายตัวเพียง 2.1%
3.พรุ่งนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) เดือน ต.ค.ของสหรัฐ บ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด โดยวันที่ 30 พ.ย. สหรัฐจะรายงานดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภคอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เรามองบวก คาด PCE จะปรับลงในทิศทางเดียวกับ CPI (PCE Price Index) ซึ่งเป็นตัวแทนเงินเอทีเฟดใช้เป็นเป้าหมายในการกำหนดหนุนเฟดคงดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. โดย Consensus คาด Headline PCE จะลดลงเป็น 3.1% จาก 3.4% และคาด Core PCE จะลดลงเป็น 3.5% จาก 3.7% ในเดือน ก.ย.
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ PSL, TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น MTC, SAWAD, KTC, AEONTS, ASK อานิสงส์ Bond Yield อ่อนตัวลง
PTTEP, TOP, SPRC, BCP, PTTGC ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ CBG (ปิด 82.5 ซื้อ/เป้า 93.60 บาท) แนวโน้มรายได้และกำไรจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/2566 จากการรับรู้รายได้ผลิตขวดและจัดจำหน่ายเบียร์เข้ามาเต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก และได้ Sentiment บวกคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายเวลาปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 หนุนยอดขายสินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อธุรกิจจัดจำหน่ายของ CBG โดยตรง
PSL (ปิด 8.20 ซื้อ/เป้า AA Consensus 10.40 บาท) เก็งกำไรจากดัชนีค่าระวางเรือเทกอง BDI Index เร่งตัวขึ้น 305 จุด หรือ 12.8% สู่ระดับ 2,696 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 เดือน ขณะเดียวกันดัชนีเรือเทกองที่มีขนาดใกล้เคียงกับกองเรือ PSL คือ Supramax (BSI) เพิ่มขึ้น 39 จุด หรือ +2.3% สู่ระดับ 1,360 จุด สูงสุดในรอบ 1 ปี