สรรพากรชี้มาตรการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีสูงสุด 5 หมื่นบาท คึกคักพอสมควร เผยร้านค้าแห่เข้าร่วมกว่า 9 พันราย วันนี้วันสุดท้ายสิ้นสุดมาตรการ
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายสำหรับการซื้อนค้าและบริการ เพื่อให้ได้รับสิทธิตามมาตรการ Easy E-Receipt ที่ให้สิทธิผู้เสียภาษีที่ซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศ ในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2567 มาลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ซึ่งรอบนี้ให้สิทธิเฉพาะใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น และต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการร้านค้าที่สามารถออกใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การตอบรับมาตรการ Easy E-Receipt ถือว่าคึกคักพอสมควร โดยมีร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการกว่า 9,000 ราย ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 10,000 ราย
อย่างไรก็ดี ในส่วนของตัวเลขการลดหย่อนภาษีว่าจะมีเท่าใดนั้น ต้องรอสรุปตอนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2567 ซึ่งจะยื่นแบบแสดงรายการภาษีในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 2568
ล่าสุดมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้ว่ามาตรการ Easy E-Receipt เป็นหนึ่งในมาตรการที่มีส่วนสนับสนุนให้ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC-CI) เดือนมกราคม 2567 ปรับตัวดีขึ้น
ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งลูกค้าว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของมาตรการ Easy E-Receipt โดยหากลูกค้าช็อปปิ้ง แล้วนำไปลดหย่อนภาษีวงเงินสูงสุด 50,000 บาท จะได้รับเงินคืนภาษี สูงสุด 17,500 บาท (โดยต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น)