“หุ้นเครื่องดื่ม” ผงาดรับหน้าร้อน ICHI ท็อปฟอร์ม-กำไรทุบสถิติใหม่

drink

หุ้นเครื่องดื่ม ผงาดรับหน้าร้อน “บล.พาย” คาดการณ์ปีนี้ 5 บริษัท โกยรายได้รวม 7.1 หมื่นล้าน โต 11% กำไรรวมกันแตะ 8.4 พันล้าน โต 20% ขณะที่ “บล.ทิสโก้” ชู ICHI หุ้นเด่นในกลุ่มเครื่องดื่ม แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท จ่อทำสถิติใหม่กำไรแตะระดับ 1,211 ล้าน หลังเปิดตัวสินค้าใหม่ “ตัน พาวเวอร์” ท้าชนสมรภูมิเครื่องดื่มชูกำลัง

นายธนวิชช์ บุญชูวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มผลประกอบการหุ้นเครื่องดื่มในปี 2567 จำนวน 5 บริษัท ประกอบด้วย 1.บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) 2.บมจ.โอสถสภา (OSP)

3.บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) 4.บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) และ 5.บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) คาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวม 71,740 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) และมีกำไรสุทธิ 8,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% (ดูตาราง)

โดยภาพรวมด้านต้นทุนน้ำตาลของทุกบริษัท คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 20% YOY แต่สำหรับผู้ประกอบการที่มีสินค้าขวด PET ทั้ง ICHI และ SAPPE จะได้ประโยชน์จากราคาเรซินพลาสติกที่ปรับตัวลดลง ซึ่งน่าจะช่วยถัวได้ รวมทั้งจากการมีกำลังการผลิตที่มากขึ้น และการที่ ICHI เป่าขวดให้บางลงก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ จึงคาดว่าหุ้นสองตัวนี้จะมีกำไรขั้นต้นที่ทรงตัว YOY

ส่วน CBG คาดว่ากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นได้ จากราคาก๊าซธรรมชาติและราคาอะลูมิเนียมที่ลดลง รวมถึงทิศทางการขายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น แม้ว่าราคาน้ำตาลจะปรับตัวขึ้น ส่วน OSP ปีที่แล้วกำไรขั้นต้นสูงมาก เพราะปิดโรงงานแก้ว ประเมินปีนี้ทั้งปีหาก OSP ไม่เปิดโรงงานแก้วกลับมา กำไรขั้นต้นจะขึ้น YOY สำหรับ COCOCO หากไม่ทุ่มบูสต์ตลาดมาก คาดว่าจะมีอัพไซด์กำไรขั้นต้นใกล้เคียงปีที่แล้ว

“ด้านค่าใช้จ่าย ICHI น่าจะควบคุมได้ดี เพราะแม้ว่าจะมีสินค้าใหม่อย่าง ‘ตัน พาวเวอร์ (TAN POWER)’ แต่คุณตัน (ภาสกรนที) เป็นพรีเซ็นเตอร์เอง ส่วน CBG แม้มีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับไม่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จะมีแค่ SAPPE ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น YOY เพราะเพิ่มงบฯการตลาด ตั้งใจที่จะบูสต์แบรนด์ต่อเนื่อง”

นายธนวิชช์กล่าวว่า สำหรับปัจจัยหน้าร้อนปีนี้คาดว่าจะสนับสนุนหุ้น ICHI มากที่สุด เพราะเป็นเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น ซึ่งในเดือน ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ตลาดชาเขียวเติบโตขึ้น 20.5% YOY และ ICHI เติบโตได้ดีกว่าตลาด

ส่วนหุ้นอื่น ๆ อย่างเช่น SAPPE ซึ่งสินค้าในประเทศส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดื่ม Beauty Drink โดยปีนี้มีแผนจะผลิตขายเครื่องดื่มคอลลาเจนชนิดผงมากขึ้น ส่วนที่เหลือจะเน้นการออกโปรดักต์ใหม่ ซึ่งทาง SAPPE ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20-25% หนุนมาจากทุกทวีป (ปัจจุบันยอดขายต่างประเทศ 77% ในประเทศ 23%) โดยยอดขายในประเทศมาจากเครื่องดื่ม Beauty Drink สัดส่วน 10% และที่เหลือ 10% จะมาจากยอดขายโปรดักต์ใหม่

ตาราง หุ้นเครื่องดื่ม

“เนื่องจากสินค้าของ SAPPE เป็น Premium Mass ราคาสูงกว่า ICHI ที่ขายขวดละ 10 บาท ทำให้ร้านโชห่วยจะขายง่ายและขายคล่องกว่า อย่างไรก็ดี ปีนี้เป็นปีแรกที่ทาง SAPPE จะขยับเข้าไปขาย Tradition Trade มากขึ้น แต่จะเน้นพวกโชห่วยพรีเมี่ยม ซึ่งคาดว่าน่าจะมีโมเมนตัมที่ดี จึงปรับคำแนะนำจากถือเป็นซื้อที่มูลค่าพื้นฐาน 111 บาท จากเดิมอยู่ที่ 88 บาท”

นอกจากนี้ ไตรมาส 2-3 ปีนี้ SAPPE ยังมีแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

ส่วนหุ้น CBG เชื่อว่ายังยืนกินมาร์เก็ตแชร์ได้ต่อเนื่อง แม้ผู้ประกอบการหลายรายที่มุ่งทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังขวดละ 10 บาทมากขึ้น เนื่องจากยังมีกำไร เหมือนที่ ICHI ออกสินค้าใหม่ TAN POWER ขวดละ 10 บาท ซึ่งขายง่ายและลูกค้ายอมรับในราคา

นายธนวิชช์กล่าวอีกว่า ด้าน OSP จะเน้นเรื่องอัตรากำไรเป็นหลัก แต่ในแง่ส่วนแบ่ง OSP ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังลดลง ช่วงไตรมาส 4/2566 ปรับตัวลดลงเป็น 46% ซึ่งแตะจุดต่ำสุด (New Low) ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2566 ที่อยู่ระดับ 46.5% และลดลงจากไตรมาส 4/2565 ที่อยู่ระดับ 47.3%

เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพอร์ตสินค้าหลักอย่าง M-150 ตัวนึงที่กดดันทำให้ภาพรวมอ่อนตัวลง ส่วน COCOCO มีโมเมนตัมยอดขายได้ค่อนข้างดีต่อเนื่อง โดยเห็นการเติบโต YOY กำลังการผลิตใหม่เข้ามาแล้ว รันได้ต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นมา

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ปกติแล้วธุรกิจเครื่องดื่มจะเติบโตตามการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัว คาดว่าช่วงไตรมาส 1/2567 ผลประกอบการอาจจะซอฟต์ลงเทียบกับไตรมาส 4/2566 แต่น่าจะยังเติบโตดีเมื่อเทียบไตรมาส 1/2566 จากนั้นเมื่อเข้าไตรมาส 2/2567 จะกลับมาโตได้ดี จากช่วงหน้าร้อน

ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นเครื่องดื่มเกือบทุกบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็น ICHI, SAPPE, OSP, CBG ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 21 บาท, 105 บาท, 27.5 บาท, 96 บาท (ตามลำดับ)

โดยหุ้น Top Pick เลือก ICHI คาดว่ากำไรสุทธิปี 2567 จะเติบโตทำสถิติใหม่ที่ระดับ 1,211 ล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2566 ประกอบกับมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างดี โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 5% ต่อปี โดยล่าสุด ICHI ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไปแล้ว และมีการทำการตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการรับจ้างผลิต (OEM) อีกด้วย

“ปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อหุ้นเครื่องดื่มที่ต้องติดตามคือ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเรื่องของนโยบายภาครัฐ เช่น เก็บภาษีน้ำตาล และความไม่แน่นอนเรื่องต้นทุนการผลิตทั้งต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนแพ็กเกจจิ้ง รวมไปถึงค่าระวางเรือที่อาจปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยค่าระวางเรือที่มีปัญหาในต่างประเทศ อาจกดดันต้นทุนการขนส่งเพิ่มสูง ซึ่งจะกระทบต่อหุ้น SAPPE ที่มีการส่งออกสินค้าค่อนข้างมาก”