คลังจ่อต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร อีก 3 เดือน บอกยอมสูญรายได้อีก 6 พันล้านบาท เพื่อประโยชน์ของประชาชน
วันที่ 29 มีนาคม 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง อาจมีพิจารณาขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดมาตรการลงในวันที่ 19 เม.ย. 2567 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว ยอมรับว่าการต่ออายุมาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้มากถึง 2,000 ล้านบาทต่อเดือน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ยอมรับว่าการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลครั้งนี้ จะส่งผลให้กรมสรรพสามิตต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อเดือนก็ตาม ประโยชน์ของประชาชน และเป็นหน้าที่ของรัฐบาล โดยเงื่อนไขต่าง ๆ จะต้องรอกระทรวงพลังงานเสนอมาให้พิจารณาอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่เห็นข้อเสนอ คาดว่ายังพอมีเวลา” นายจุลพันธ์กล่าว
ทั้งนี้ ผลจากการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล รวมทั้งน้ำมันเบนซินจะส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีหนี้เฉลี่ยเดือนละ 2,000 ล้านบาท รวม 3 เดือน จะมีหนี้ 6,000 ล้านบาท และส่งผลให้ช่วง 4 เดือนแรกปีงบประมาณ 2567 (ต.ค. 2566-ม.ค. 2567) รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า 8.8 พันล้านบาท หรือ 1.1%
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 25 มีนาคม 2567 กองทุนมีสินทรัพย์รวม 27,809 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 126,029 ล้านบาท ฐานะกองทุนสุทธิติดลบ 98,220 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 51,136 ล้านบาท บัญชี LPG 47,084 ล้านบาท