เงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง ทุบหุ้นไทยอ่อนตัวแนวรับ 1,400 จุด หวังแรงซื้อกลุ่มพลังงาน

หุ้นไทย

บล.กรุงศรีพัฒนสินฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวแนวรับ 1,400 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้าน ดาวโจนส์ร่วงแรง หลังเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด +3.5% กดดันเฟดคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน ลุ้นสลับดีดตัวขึ้นได้จากแรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น ด้านกลุ่มธนาคารโล่งอก แบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ย 2.5% ฟาก CPALL หุ้นเด่นได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระเป๋าเงินดิจิทัล

วันที่ 11 เมษายน 2567 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีพัฒนสินฯ รายงานว่า ตลาดหุ้นวานนี้ดัชนี SET Index เพิ่มขึ้น 7 จุด (+0.50%) ปิดที่ระดับ 1,408 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไรกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และยังมีแรงซื้อกลุ่มค้าปลีก รับข่าวภาครัฐแถลงความชัดเจนของมาตรการ กระเป๋าเงินดิจิทัล

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,400 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอยู่ระดับสูงโดย CPI เดือน มี.ค. + 3.5% YOY ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐและค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น ซึ่งเป็นลบต่อภาวะการลงทุน อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะสลับดีดตัวขึ้นได้จากแรงซื้อในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น กลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น จึงแนะนำลงทุนแบบ Selective buy

ประเด็นสำคัญหลัก ๆ ช่วงนี้คือ

1. ค้าปลีกได้ประโยชน์ กระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมี่นบาทต่อคนเริ่มใช้จริงปลายปีนี้ โดยวานนี้รัฐบาลแถลงความชัดเจนของโครงกรกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยจะแจกเงินดิจิทัลให้กับประชาชนที่มีอายุเกิน 16 ปี รายได้พึงประเมินต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท มีเงินฝากรวมทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท ใช้เงินจากงบประมาณของปี 2567 และปี 2568 และจาก ธ.ก.ส. รวมมูลค่าโครงการ 5 แสนล้านบาท เปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนไตรมาส 3/3567 และโอนเงินให้ประชาชนใช้จริงไตรมาส 4/2567

2.กลุ่มธนาคารโล่งอก แบงก์ชาติมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ตามเดิม โดย กนง. มีมติ 5 : 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนยบายที่ระดับ 2.5% ตามเดิม กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน

โดยเศรษฐกิจไทยมีปัญหาในเชิงโครงสร้าง การลดดอกเบี้ยจะมีผลจำกัด แต่ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนที่จะเข้ามากระทบเศรษฐกิจในอนาคต

3.ดาวโจนส์ร่วงแรง เงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด กดดันเฟดคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน โดยสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน มี.ค. Headline CPI เร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 3.5% จาก 3.2% ในเดือน ก.พ. และมากกว่าที่ Cansensus คาดไว้ที่ 3.4% ส่วน Core CPI ทรงตัวที่ 3.8% ตามเดิมแต่สวนทางกับที่ Consensus คาดว่าจะลดลงเป็น 3.7% ปัจจัยนี้กดดันให้บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.55% และดาวโจนส์ร่วง 422 จุด (-1.09%) ปิดที่ 38,462 จุด

กลยุทธ์การลงทุน PTTEP TOP SPRC BCP BSRC PTTGC ตามราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง TU GFPT ITC AAI SAPPE อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า AOT MINT ITC AAI DOHOME GLOBAL CPALL TOP SPRC BSRC BCP PTTGC IVL คาดกำไรไตรมาส 1/2567 เติบโต

หุ้นเด่นวันนี้ CPALL (ปิด 57.25 บาท ซื้อ/เป้า 74 บาท) คาดจะได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระเป๋าเงินดิจิทัล หลังภาครัฐจัดให้ร้านสะดวกซื้อเป็นร้านค้าขนาดเล็กที่เข้าร่วมรายการได้ ทำให้ CPALL ซึ่งมีจำนวนสาขากระจายครอบคลุมในทุกพื้นที่มีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

และ PTTEP (ปิด 159 บาท ซื้อ/เป้า 174 บาท) ความกังวลจากราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะทำให้นักลงทุนกลับมาสนใจหุ้นในกลุ่มพลังงานอีกครั้ง เพราะได้ประโยชน์โดยตรงหรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด